MGR Online - ผบ.ตร.กำชับ ผบก.นนท์ เร่งพิสูจน์ทราบตัวและจับกุม ผจก.คอนโดฯ ร่วมกับชายอ้างเป็นตำรวจ รุมกระทืบหนุ่ม นศ.ซ้ำยังชักปืนขู่ ย้ำหากเป็นตำรวจจริงยอมรับไม่ได้ สั่งฟันวินัยและอาญา เอาผิดให้ถึงที่สุด
วันนี้ (5 ก.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งร้อง ผจก.คอนโดมิเนียมกับเพื่อนที่อ้างเป็นตำรวจ ชักปืนขู่และทำร้ายร่างกาย หาว่าพกอาวุธเข้ามาก่อกวน ว่า ได้รับรายงานจาก ภ.จว.นนทบุรี ว่าเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 เวลา 22.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายซึ่งเป็นชายอายุ 23 ปี ประสงค์ให้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาที่ทำร้ายร่างกายโดยอ้างว่าเป็นผู้จัดการคอนโดฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในย่านรัตนาธิเบศร์
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากผู้เสียหายและพยาน พร้อมส่งตัวผู้เสียหายไปทำการรักษาตัวและชันสูตรบาลแผลที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางใหญ่ และร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ไล่ภาพกล้องวงจรปิดและสืบสวนขยายผลบุคคลที่ก่อเหตุ
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนและพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พอทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองแล้ว และขอประชาชนอย่าเพิ่งปักใจเชื่อในทางหนึ่งทางใด หากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่มีการช่วยเหลือกันอย่างแน่นอน โดยต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการทำงานเพื่อพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิด
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กำชับไปยังตำรวจที่รับผิดชอบในคดีนี้ รวมถึง พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และ พ.ต.อ.ธีรวัจน์ ขจรเกียรติภาส ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ให้เร่งพิสูจน์ทราบผู้ก่อเหตุ ทำความจริงให้ปรากฏแก่สังคมและติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กำชับความประพฤติ การปฏิบัติตนตามระเบียบวินัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้แก่ประชาชน โดยหากเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้กระทำผิดเสียเองหรือไปสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน ผบ.ตร.ยอมรับไม่ได้ ต้องเอาผิดให้ถึงที่สุดทั้งทางวินัยและอาญา แต่หากเป็นมิจฉาชีพหรือผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน ทั้งเป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อองค์กรต้องเร่งสืบสวนติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็วเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับตำรวจและความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบการกระทำในลักษณะดังกล่าวสามารถขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเพื่อความบริสุทธิ์ใจ หรือขอตรวจสอบบัตรประจำตัว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันมิจฉาชีพ ผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะหากเป็นตำรวจแล้วสามารถทนเห็นประชาชนถูกทำร้ายร่างกายโดยไม่มีการห้ามปรามหรือช่วยเหลือใดๆ ก็ไม่สมควรปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต่อไป