MGR Online - ตร.ทลายแก๊งต่างชาติผิวสีร่วมกับหญิงไทย หลอกลวงขายหน้ากากอนามัยให้แก่ชาวต่างชาติ มูลค่าความเสียหายกว่า 12 ล้านบาท
วันนี้(3 ก.ย.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.ข่าวกรองยาเสพติด ในฐานะหัวหน้าชุดเทคนิคสืบสวน 2 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือ ศปอส.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายชาวต่างชาติผิวสีร่วมกับหญิงไทย ตั้งบริษัท TIMBERMATE หลอกลวงขายหน้ากากอนามัยให้แก่ชาวต่างชาติ 3 ราย เป็นชาวเกาหลีใต้ 1 ราย ชาวฮ่องกง 2 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 12 ล้านบาท
พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานข้อมูลโดยตรงจากตำรวจสากลของเกาหลีใต้และฮ่องกง ว่า พบการกระทำผิดในประเทศไทย โดยมีข้อมูลกลุ่มเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ใช้ช่องทางติดต่อสื่อสารผ่านทางออนไลน์ โดยอ้างชื่อเว็บไซต์ www.globalsource.com ,อาลีบาบา ALIBABA ได้โพสต์ข้อความและจัดทำเว็บไชต์หลอกขายสินค้าหน้ากากอนามัย เครื่องวัดอุณหภูมิ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตติดต่อเสนอขายสินค้าระหว่างประเทศ โดยกลุ่มคนร้าย ได้ตั้งบริษัท Timbermate และร้านค้าชื่อ ECHO SPORT ในประเทศไทย เพื่อจัดจำหน่าย หน้ากากอนามัย เครื่องวัดอุณหภูมิ หลอกขายสินค้าให้ชาวต่างชาติและรับโอนเงินค่าสินค้า เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนสามารถออกหมายขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 6 ราย
จากนั้นชุดสืบสวนสอบสวนได้นำหมายค้นจากศาลอาญาเข้าตรวจค้น 9 จุด ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคอีสาน ประกอบด้วย ขอนแก่น มหาสารคามและกาฬสินธ์ หลังสืบทราบว่าผู้ต้องหาใช้จังหวัดขอนแก่นเป็นโกดังถ่ายสินค้าหลอกผู้หาย จนสามารถจับกุม Mr.Anubodem สัญชาติแคเมอรูนกับพวกรวม 7 ราย เป็นชาวผิวสีสัญชาติแคเมอรูน 4ราย และหญิงไทย 3 ราย ยังเหลือหลบหนีอีก1ราย ตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินหลายรายการ อาทิ คอมพิวเตอร์,โทรศัพท์มือถือ, หน้ากากอนามัย ,เครื่องวัดอุณหภูมิ ,ถุงมืออนามัย ,รถยนต์,เงินสด จำนวน 6,141,000 บาท จำนวนกว่า 150 รายการ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม ดำเนินคดี ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หรือฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น, โดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ บิดเบือดหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และใช้บัตรอิเลคทรอนิกส์ ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่าจากการสอบปากคำผู้ต้องหาที่เป็นหญิงไทยทำหน้าที่เปิดบริษัทและเป็นกรรมการบริษัท ให้การยอมรับสารภาพว่าได้ร่วมกับชาวผิวสีกระทำความผิด โดยทำมาแล้วประมาณ 2 เดือน ลักษณะจะโพสต์ขายสินค้าดังกล่าวผ่านเว็บออนไลน์ต่างประเทศ แต่ไม่มีสินค้าอยู่จริง มีเพียงสินค้าตัวอย่างเท่านั้น และยังไม่พบว่ามีผู้เสียหายชาวไทย สำหรับชาวผิวสีพบว่าบางคนเป็นครูสอนภาษาต่างประเทศ เนื่องจากพบว่ามีนักศึกษาคนไทย ช่วยเปิดบัญชีธนาคารให้ด้วย แต่จากการสืบสวนยังไม่พบว่านักศึกษามีส่วนเกี่ยวข้อง จึงยังไม่มีการดำเนินคดี พร้อม ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง เนื่องจากการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารเข้าข่ายกระทำผิดได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่านาย Mr.Anubodem ผู้ต้องหา มีประวัติการกระทำผิดและถูกขึ้นแบล็คลิสแต่ได้หลบหนีเข้าประเทศ อีกทั้งพบว่ายังมีเครือข่ายดังกล่าวอีกจำนวนหนึ่ง จึงเตรียมขยายผลเพื่อสืบสวนหาขบวนการดังกล่าวต่อไป