MGR Online - ผู้ช่วย ผบ.ตร.นำทีมแถลงผลงานตำรวจ ปส.จับผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดยึดยาบ้าเกือบ 10 ล้านเม็ด ไอซ์ 66 กก. กัญชา 2,050 กก. ฝิ่นดิบอีก 3 กก.
วันนี้ (3 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.วิสนุปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.ขส. พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.วัชระทิพย์ มงคล ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.บัณฑิต ทิศาภาค ผบก.สกส. พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ รอง ผบก.ปส.3 และ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 แถลงจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า 9,830,000 เม็ด ไอซ์ 66 กิโลกรัม กัญชา 2,050 กิโลกรัม และฝิ่นดิบ 3 กิโลกรัม
คดีแรกจับกุม นายบุญจับ หาญทัพมหัตกุล อายุ 39 ปี นางปวีณา หาญทัพมหัตกุล อายุ 38 ปี นายวิรัตน์ แสนซุ้ง อายุ 36 ปี น.ส.จั๊ว แซ่ห่าง อายุ 42 ปี และ นายชัชวาลย์ สุวรรณชิต อายุ 35 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 8,000,000 เม็ด ไอซ์ 60 กิโลกรัมและ รถยนต์ 3 คัน แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุมได้ริมถนนในหมู่บ้านประดู่งาม ต.ประดู่งาม อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ หลังชุดจับกุมสืบทราบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากนายทุนพ่อค้ายาเสพติด โดยนำเข้ามาจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือมาส่งมอบให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ภาคกลาง ก่อนจะจับนายชัชวาลย์ ได้ที่บริเวณริมถนนในหมู่บ้านประดู่งาม พร้อมของกลางยาบ้าและไอซ์ ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในกระบะบรรทุกของรถกระบะแล้วไปจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือได้ที่ปั๊มน้ำมันพีทีสาขา 3 ศรีเทพ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์
คดีที่ 2 จับกุม นายเหมรัตน์ กงเพชร อายุ 29 ปี นายสุเมธ เพ็ชรแก้ว อายุ 30 ปี นายศาตนันท์ พิชญะวิบูลย์ อายุ 28 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 400,000 เม็ด แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุมได้ที่ลานจอดรถภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ถ.แจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องหน้าร้านอาหารครัวคุณปอ ซอยแจ้งวัฒนะ 14 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หลังสืบทราบว่า กลุ่มนายเหมไม่ทราบนามสกุล เป็นนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ถนนหทัยราษฎร์ จะทำการซื้อขายยาเสพติดโดยนัดส่งมอบยาเสพติดที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าโลตัส ชุดจับกุมจึงเฝ้าติดตาม จนพบว่า นายเหมรัตน์ และ นายสุเมธ ขับรถยนต์เข้ามาจอดที่ลานจอดรถของห้างลักษณะมีพิรุธน่าสงสัยจึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ จึงจับกุมนายเหมรัตน์กับพวกนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 3 จับกุม นายมนตรี แซ่ลี อายุ 24 ปี นายสุชาติ หย่าจา อายุ 23 ปี นายชานนท์ สูเจา อายุ 25 ปี นายอาเล ยาผะ อายุ 20 ปี ชาวเมียนมา พร้อมของกลางยาบ้า 1.4 ล้านเม็ด ไอซ์ 6 กิโลกรัม ฝิ่นดิบ 3 กิโลกรัม รถเก๋งมาสด้า สีเทา ทะเบียน งท 2503เชียงใหม่ รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ทะเบียน 1 กบ 1587 เชียงใหม่ แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่นดิบ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 242 ม.11 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หลังชุดจับกุมสืบทราบว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดจาก อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ มาส่งให้กับกลุ่มนายมนตรี ในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จึงติดตามจนพบนายสุชาติ และนายชานนท์ ขี่รถจักรยานยนต์นำรถเก๋ง ซึ่งมีนายมนตรีเป็นผู้ขับและนายอาเลนั่งโดยสารเข้าไปยังห้องเช่าที่จับกุมและนายสุชาติกับพวก 4 คน ช่วยกันยกถุงขยะสีดำลักษณะมีน้ำหนักหลายใบออกจากรถเก๋งเข้าไปในบ้านเช่าก่อนจะขับรถตามกันย้อนกลับออกมาทางเดิมลักษณะเร่งรีบผิดปกติ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงตรวจค้นในห้องเช่าพบยาเสพติดของกลางซุกซ่อนอยู่ในถุงขยะสีดำ จึงตรวจยึดและติดตามจับกุมกลุ่มนายมนตรีได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังขยายผลยึดทรัพย์สินหลายรายการรวมมูลค่า 150,000 บาท
และคดีสุดท้าย บก.ปส.2 ได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางกัญชาแห้งจำนวนมาก โดยจับกุม นายรุ่งโรจน์ ทีเหง้า อายุ 44 ปีพร้อมกัญชา 450 กิโลกรัม ได้ที่ริมถนนศรีธาตุ-วังสามหมอ จ.อุดรธานี จับกุม นายสมนึก โสจันหอม อายุ 47 ปี พร้อมกัญชา 600 กิโลกรัม ได้ที่ริมถนนนิตโย ต.สว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร จับกุมนายธนกฤต สร้อยอนุสรณ์ อายุ 34 ปี น.ส.เนตรนภา คำพิลา อายุ 30 ปี นายบัณฑิต ผาริวงค์ อายุ 22 ปี นายคมสัน ผาริวงค์ อายุ 34 ปี พร้อมกัญชา 1,000 กิโลกรัม แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตจับกุมที่ลานจอดรถยนต์ปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาบ้านไผ่หมู่ 2 ถนนมิตรภาพ ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลังขยายผลจับกุม “แก๊งขนมเบื้อง” ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ทางพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เพื่อนำยาเสพติดไปส่งมอบให้กับเครือข่ายในพื้นที่ภาคกลางแล้วส่งต่อไปภาคใต้ จึงนำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป