xs
xsm
sm
md
lg

รวบโจรชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ อ้างช่วงโควิดทำการเงินขัดสน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ตำรวจบางกอกใหญ่ จับกุมหนุ่มอดีตพนักงานใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ย่านจรัญสนิทวงศ์ กวาดเงินกว่า 14,000 บาท อ้างขัดสนช่วงโควิด

วันนี้ (2 ก.ย.)เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ สน.บางกอกใหญ่ พ.ต.อ.ศุภชัชช์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.น.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สน.บางกอกใหญ่ ร่วมแถลงผลการจับกุมนายจักรรินทร์ หรือ อั๋น รักอยู่สุข อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.252/2563 ลงวันที่ 1 ก.ย. 63 ข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธและพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรพร้อมของกลางเสื้อผ้า 1 ชุด บุหรี่ 1 ซอง และรองเท้า 1 คู่ โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าไม่มีชื่อกลางซอยจรัญสนิทวงศ์ 25 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ

พ.ต.อ.ศุภชัชช์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 01.05 น. วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา มีคนร้ายใช้อาวุธมีดทำครัวยาว 1 ฟุต เข้าไปจี้ชิงทรัพย์พนักงานร้าน 7-11 สาขาจรัญสนิทวงศ์ ซอย 8 ได้เงินสดไป 14,734 บาท บุหรี่ 1 ซอง และไฟแช็ก 1 อัน หลังก่อเหตุคนร้ายออกจากร้านขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไปทางสามแยกไฟฉาย

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดร้านที่เกิดเหตุ พบว่า คนร้ายมีรูปพรรณที่เป็นลักษณะเด่นเรื่องความสูงเกิน 180 เซนติเมตร อีกทั้งมีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าจะมีความรู้เรื่องงานแคชเชียร์ เพราะสามารถหยิบสินค้าขึ้นมาสแกนบาร์โค้ด เพื่อเปิดลิ้นชักเก็บเงินของทางร้านได้ ชุดจับกุมจึงประสานขอข้อมูลพนักงานเก่าๆ จากทางบริษัท

กระทั่งทราบว่า คนร้ายรายนี้เคยเป็นอดีตพนักงานร้าน 7-11 มาก่อน แต่ถูกไล่ออกเพราะมีปัญหาชอบยักยอกเงินของบริษัท จนเป็นที่มาของการขออนุมัติหมายจับติดตามตัวไปจับกุมนายจักรรินทร์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบสวน นายจักรรินทร์ ยอมรับว่า เคยทำงานเป็นพนักงานร้าน 7-11 สาขาถนนอิสรภาพ ซอย 47 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสาขาที่ลงมือก่อเหตุ แต่ถูกไล่ออกจากงาน เพราะนำเงินในลิ้นชักของทางร้านไปใช้ ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ขัดสนไม่มีเงินใช้จ่ายประกอบกับค้างค่าเช่าห้องมานานหลายเดือน จึงเลือกก่อเหตุชิงทรัพย์ในร้าน 7-11 สาขาจรัญสนิทวงศ์ซอย 8 เพราะรู้ว่าที่สาขานี้จะค่อนข้างปลอดลูกค้าในตอนกลางคืน

โดยหลังลงมือเสร็จก็วิ่งข้ามสะพานลอยไปขึ้นแท็กซี่ เพื่อหลบหนีกลับเข้าห้องพักในซอยจรัญสนิทวงศ์ 25 ก่อนทำมีดของกลางตกอยู่ในรถแท็กซี่ช่วงเย็นวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็บุกไปจับกุมที่ห้องพักขณะกำลังนั่งเช็กข่าวสารของตัวเองทางโทรศัพท์มือถือ

จากนั้นตำรวจได้พาตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สน.บางกอกใหญ่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น