MGR Online - ผบ.ตร.นำคณะบินด่วนเมืองกาญจน์ แถลงจับยานรกล็อตใหญ่ เฮโรอีน 77 กก. ไอซ์ 1.3 ตัน เคตามีน 500 กก. ซุกอยู่ในรถบรรทุก รวมมูลค่าของกลางนับพันล้าน ผู้ต้องหาสารภาพรับจ้างขนยาเสพติดจากสังขละบุรีไปส่ง จ.ปทุมฯ ได้ค่าจ้าง 1.5 แสนต่อเที่ยว ทำมาแล้ว 3 ครั้ง
วันนี้ (25 ส.ค.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร., พล.ต.สุวิทย์ เกตุศรี รอง มทภ.1, พล.ต.ฐกัด หลอดศิริ ผบ.พล.ร.9 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายศักดิ์ชัย แกรอด อายุ 58 ปี ชาว จ.ราชบุรี พร้อมของกลางยาเสพติด เฮโรอีน 77 กก., ไอซ์ 1,385 กก., เคตามีน 500 กก., โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถยนต์บรรทุก 12 ล้อ 1 คัน รวมมูลค่าของกลางเป็นเงิน 1,637 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่บริเวณจุดตรวจร่วมสามแยก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับจ้างจากนายกู๋ (ขอสงวนชื่อสกุลจริง) ชาว จ.นครปฐม โทรศัพท์ให้มาขับรถบรรทุกที่ซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในช่องลับแต่ไม่ทราบจำนวน จาก อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยให้ตนขับรถยนต์ส่วนตัวไปหาที่ อ.สังขละบุรี แล้วเปลี่ยนไปขับรถบรรทุกไปส่งตามจุดที่กำหนดไว้ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่จ.ปทุมธานี เมื่อเสร็จแล้วกลับมาเอารถยนต์จะมีเงินค่าจ้างวางอยู่ในรถ ทำมาแล้ว 3 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 150,000 บาท
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ได้สั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นวาระแห่งชาติที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลักลอบลำเลียงขนยาเสพติดตามแนวชายแดนเข้ามาจำหน่ายภายในราชอาณาจักร หรือในพื้นที่ชั้นใน โดยการประสานงานด้านการข่าวและข้อมูลยาเสพติด ร่วมกับหน่วยร่วมปฏิบัติ รวมไปถึงการขยายผลการจับกุม เครือข่ายผู้ร่วมขบวนการ นายทุน ผู้อยู่เบื้องหลัง ตลอดจนดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติดให้สิ้นซาก อีกทั้งให้เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลำเลียงยาเสพติดในลักษณะดังกล่าว และขอให้เจ้าหน้าที่หน่วยร่วมปฏิบัติทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาท ระมัดระวังตัว พร้อมใช้อุปกรณ์และเครื่องมือสนับสนุนในการปฏิบัติงานให้ประสบความสำเร็จต่อไป