ชายวัย 38 ปี ทะเลาะแฟนสาว พุ่งหลาวลงจากระเบียงหลังห้องอพาร์ตเมนต์ชั้น 4 หน้าผากกระเเทกพื้นเสียชีวิตคาลานจอดรถ จยย.ด้านหลังอพาร์ตเมนต์ซอยลาดพร้าว 48 ตรวจสอบห้องพักผู้ตายพบเพียงขวดเบียร์ที่กินเหลือไว้ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 19 ส.ค. ร.ต.ท.รุ่งโรจน์ ดอนนันไชย รอง สว.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุชายตกจากที่สูงเสียชีวิตภายใน เอส 5 อพาร์ทเม้นท์ ซอยลาดพร้าว 48 แยก 5-2 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี และเจ้าหน้ากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเมนต์สูง 7 ชั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามกันสื่อมวลชนและบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเจ้าของอาคารไม่อนุญาตให้บันทึกภาพรายงานข่าว จากการตรวจสอบบริเวณลานจอดรถ จยย.ด้านหลังอพาร์ตเมนต์พบศพ นายสานนท์ หรือ โอ ไม้สน อายุ 38 ปี ผู้เช่าห้องเลขที่ 424 ชั้น 4 ก่อเหตุพุ่งหลาวลงจากระเบียงด้านหลังห้องลงมาหน้าผากกระเเทกพื้นในสภาพคว่ำหน้าบั้นท้ายโก้งโค้ง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา ที่ลำคอมีปลั๊กพ่วงสายไฟสีชมพูตกลงมาด้วย 1 ชุด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามเพื่อนๆ ผู้ตายซึ่งเดินทางมายังจุดเกิดเหตุให้ข้อมูลว่า นายสานนท์ ประกอบอาชีพขายฟิล์มติดหน้าจอโทรศัพท์และรับฝากขายบ้าน คอนโดมิเนียม ในโซเชียลมีเดีย ที่ผ่านมา ประสบภาวะเครียด เนื่องจากพิษโควิด-19 ประกอบกับมีปากเสียงกับแฟนสาวอยู่บ่อยครั้ง จนแฟนไม่กลับเข้าห้องพัก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายสานนท์ พยายามใช้ปลั๊กพ่วงสายไฟสีชมพูก่อเหตุผูกคอตัวเองกับราวแขวนผ้าในห้องน้ำหวังฆ่าตัวตายมาแล้วรอบหนึ่ง แต่ระหว่างนั้นเพื่อนที่วิดีโอคอลคุยกันช่วยกันปลอบใจเอาไว้จนสงบสติอารมณ์ลงได้
กระทั่งคืนวันนี้ทราบว่า แฟนสาวของผู้ตายกลับมาที่ห้องแล้ว แต่เชื่อว่า น่าจะมีปากเสียงกันอีก จึงทำให้ นายสานนท์ คว้าปลั๊กพ่วงสายไฟอันเดิมมาหวังจะผูกคอฆ่าตัวตายเพื่อประชด แต่แฟนสาวได้พยายามเข้าช่วยเหลือไว้ ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจกระโดดพุ่งหลาวลงจากระเบียงหลังห้องพักศีรษะกระแทกพื้นเสียชีวิตลงในที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อพนักงานสอบสวนพร้อมกองพิสูจน์หลักฐานพากันขึ้นไปตรวจสอบบนห้องพักผู้ตาย เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด พบเพียงขวดเบียร์ที่กินเหลือไว้เพียงเท่านั้น โดยหลังจากนี้ จะเชิญตัวแฟนสาวของผู้ตาย ซึ่งอยู่ด้วยกันขณะเกิดเหตุและกำลังอยู่ในอาการโศกเศร้าไปสอบปากคำที่โรงพักอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบร่างให้แพทย์ทำการผ่าชันสูตรเพื่อระบุสาเหตุการตายต่อไป
