รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด งงโดนย้ายไปเป็นรองอธิบดีปราบทุจริตจังหวัดภาคใต้ พบคิวอาวุโสน้อยกว่าอยู่ใน กทม. 8 ราย
วันนี้ (18 ส.ค.) นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) กล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุม ก.อ.ได้หยิบยกประเด็นการโยกย้ายนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ไปดำรงตำแหน่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 9 ที่ จ.สงขลา ว่ามีความเหมาะสมหรือสมควรโยกย้ายเพียงใด โดยกรรมการอัยการแสดงความเห็นกันอย่างเต็มที่ ส่วนตนเองในฐานะประธาน ก.อ.ได้รับฟังการอภิปราย สุดท้ายผลสรุป คือ เหมือนเดิมเพราะว่าอธิบดีคณะกรรมการอัยการได้เสนอมาแล้วยืนยันให้ไปดำรงตำแหน่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 9
จากการสอบถามนายโกศลวัฒน์ ระบุถึงเรื่องการโยกย้ายไปอยู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายโกศลวัฒน์กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างจัดงานให้ความรู้เกี่ยวกับภัยร้ายในโลกออนไลน์ให้แก่นักเรียนที่ จ.สิงห์บุรี
ทั้งนี้ สำหรับบทบาทที่ผ่านมาของนายโกศลวัฒน์ ถือเป็นรองโฆษกอัยการฯ ที่มีบทบาทสำคัญในด้านการสนับสนุนการทำงานช่วยเหลือสังคมและผู้ด้อยโอกาส สนับสนุนผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้วยการมอบรางวัล “คนดีที่เรายกย่อง”
อย่างไรก็ตามนอกจากนี้ ที่ประชุม ก.อ.ยังมีวาระการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งข้าราชการอัยการในระดับตั้งแต่ รองอัยการสูงสุด จนถึงระดับรองอธิบดี, รองอัยการสูงสุด 7 ตำแหน่ง, ผู้ตรวจการอัยการ 8 ตำแหน่ง ระดับอธิบดีอัยการ 79 ตำแหน่ง, รองอธิบดีอัยการอีก 118 ตำแหน่ง และวาระสำคัญอื่นๆ
นอกจากนี้นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) กล่าวถึงกระแสข่าวการพิจารณาโยกย้ายนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี จากกรณีคดีเมาแล้วขับว่า ไม่ได้โยกย้าย เพียงแต่อัยการปรเมศวร์นั้น ตามลำดับอาวุโสท่านถึงผู้ตรวจการอัยการ ซึ่งมีอธิบดีอาวุโสถึง 9 คน แต่ผ่าน 8 คน ส่วนอัยการปรเมศวร์ต้องขอสำนวนการสอบสวนจากตำรวจมาพิจารณาประกอบก่อนในการประชุมครั้งหน้า คือวันที่ 9 ก.ย. นี้ ท่านยังไม่ได้ถูกย้ายอะไร เพียงแต่จะได้ขึ้นเป็นผู้ตรวจการอัยการหรือไม่ เพราะจะมีผลวันที่ 1 ต.ค.นี้
เมื่อถามว่าจะมีผลต่อการโยกย้ายรับราชการหรือไม่
นายอรรถพล กล่าวว่า ต้องไปดูรายละเอียด เพราะตอนนี้ที่ท่านให้ถ้อยคำต่อ ก.อ.เป็นลักษณะว่าเรื่องนี้คิดว่าจบไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะเมื่อมีการชนเกิดขึ้น ท่านบอกท่านไม่ได้ประมาท หลังจากนั้นก็ชดใช้ค่าเสียหายกันเรียบร้อยแล้ว จึงต้องรอสำนวนจากพนักงานสอบสวนที่เราถามไป ท่านปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไปเป่าแอลกอฮอล์ที่โรงพักอีกเขตหนึ่ง ท่านบอกดื่มมาเล็กน้อยไม่น่าจะเกิน
" สำหรับอัยการเคสนี้ยังไม่เคยมี แต่ที่ทราบโดยทั่วไปถ้าประมาทไม่นำมาพิจารณา เรื่องที่มาถึงนี้ถ้าสื่อไม่บอกก็ไม่ทราบเหมือนกัน เราได้ลงมาดู ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ให้ทางอธิบดี ก.อ. ไปศึกษาว่าเคสทำนองนี้มีหรือไม่ และเคยมีการลงโทษอย่างไร"