MGR Online - ผบช.น.เผยเร่งสืบเชิงลึกคดียิงดับ 4 ศพในบ่อน “เฮียตี้” ย่านพระราม 3 เร่งตรวจสอบว่าเป็นบ่อนการพนันหรือไม่ ยืนยันไปถึงไม่พบกล้องวงจรปิด คาดมีคนถอดออกก่อนตำรวจไปถึง สั่งสืบสวนหาตัวคนขนย้ายอุปกรณ์ เอาผิดฐานทำลายหลักฐาน
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน กรณีเหตุยิงกันในบ่อน “เฮียตี้” ย่านพระราม 3 จนมีผู้เสียชีวิต 4 ศพ ว่าคดีนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนเชิงลึก เพื่อติดตามหาพยานหลักฐานทั้งในที่เกิดเหตุ และรอบพื้นที่ ซึ่งหากตรวจสอบพบพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักให้เชื่อว่าสถานที่เกิดเหตุเป็นบ่อนพนันก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่
พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเด็นเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดยืนยันในคืนวันเกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงไม่พบ ส่วนตัวเชื่อว่ามีบุคคลถอดออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึงในทางการสืบสวนสอบสวนจะต้องเรียกเจ้าของตึกเข้ามาให้ปากคำ ไปจนถึงการสืบสวนหาตัวบุคคลที่ปรากฏในภาพถ่าย ขณะช่วยกันขนย้ายเก้าอี้ สิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ ภายในอาคารเกิดเหตุ รวมถึงการติดตามหาเบาะแสกลุ่มผู้เล่นพนันซึ่งจะเรียกมาสอบสวนทั้งหมด หากพบมีความผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ผบช.น.ยังได้กล่าวถึงกระแสข่าวตำรวจนอกเครื่องแบบเป็นผู้ลงมือยิงนายถาวร ภายหลังเข้าไปตรวจสอบเหตุ พ.ต.ท.วัทธเศรษฐ์ ถูกยิงเสียชีวิต รวมถึงการประวิงเวลาของบุคคลภายในอาคารเพื่อขนย้ายสิ่งของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ่อน ไปจนถึงความพยายามทำลายหลักฐานว่า นายถาวรเสียชีวิตก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าถึงที่เกิดเหตุ และตำรวจชุดแรกที่เข้าถึงพื้นที่คือสายตรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเข้าถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาทีหลังรับแจ้ง ส่วนผู้ลงมือยิงที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างสืบสวนยืนยันตัวบุคคลเพื่อติดตามตัว ส่วนกรณีที่มีผู้ออกมาให้ข้อมูลเรื่องบ่อนการพนันต่างๆ ทางตำรวจยินดีรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย ทั้งนี้ หากมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนตรวจสอบ สามารถส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ได้
ด้าน พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น.ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจท้องที่ หลังเกิดเหตุยิงตายภายในบ่อนการพนันย่านพระราม 3 ว่าตนเองยังไม่เห็นคำสั่งอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบเป็นการตรวจสอบการปฏิบัติของตำรวจท้องที่ว่าปล่อยปละละเลย หรือบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปรามความผิดเกี่ยวกับบ่อนการพนันหรือไม่ ทั้งนี้ หากเห็นตัวคำสั่งก็จะเริ่มเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาประชุมทันที โดยในการประชุมจะมีการนำข้อเท็จจริงที่ปรากฏมาพิจารณา รวมถึงกรณีที่ปรากฏภาพกลุ่มบุคคลที่เคลื่อนย้ายพยานหลักฐานในคดี ปกปิดสภาพที่เกิดเหตุซึ่งมีความผิดทางกฎหมาย
ส่วนกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ออกมาให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนเกี่ยวบ่อนการพนันนั้น พล.ต.ต.สุคุณกล่าวว่า เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในการให้ข้อมูลรวมถึงภาพต่างๆ ที่มีการนำไปเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ก็จะนำมาพิจารณาในที่ประชุมของชุดนี้ด้วย ทั้งนี้ การพิจารณาของคณะกรรมการไม่มีการกำหนดกรอบเวลาเป็นพิเศษ