xs
xsm
sm
md
lg

อัยการสั่งไม่ฟ้อง-ตร.ไม่แย้ง “ปิยบุตร” พ้นคดีหมิ่นศาล รธน. ปมค้านยุบ "ไทยรักษาชาติ"

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



อัยการสั่งไม่ฟ้อง-ตร.ไม่แย้ง “ปิยบุตร” อดีตเลขาฯ พรรคอนาคตใหม่ พ้นคดีหมิ่นศาล รธน. ปมวิจารณ์ยุบพรรคไทยรักษาชาติ

วันนี้ (3 ส.ค.) นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของแกนนำคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์เปิดเผยความคืบหน้าคดีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กรณีถูกกล่าวหาความผิดดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ จากการอ่านแถลงการณ์วิจารณ์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ในคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่า อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง นายปิยบุตร ข้อหาหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญมาแล้วตั้งแต่ประมาณ 2 เดือนก่อน ส่งหนังสือให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า มีความเห็นอย่างไร โดยล่าสุด ตนทราบคำสั่งจากทางอัยการเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2563 ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่แย้งคำสั่งอัยการ เห็นชอบที่จะสั่งไม่ฟ้องนายปิยบุตรแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างทำหนังสือแจ้งให้เจ้าตัวทราบ

นายกฤษฎางค์ กล่าวถึงขั้นตอนสู้คดีก่อนหน้านั้น ว่า เราทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้สอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพราะในสำนวนไม่ปรากฏว่าศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็น เป็นการกล่าวอ้างของตำรวจเอง ซึ่งการวิจารณ์ของ นายปิยบุตร เป็นการให้ความเห็นทางวิชาการ จากนั้นสอบเพิ่มเติมอัยการก็สั่งไม่ฟ้อง ส่งเรื่องให้ทางตำรวจ เพื่อนัดหมายฟังคำสั่งวันที่ 30 ก.ค. ปรากฏว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเห็นชอบกับอัยการไม่ฟ้อง ขณะนี้ถือว่าจบแล้ว

เมื่อถามว่า พนักงานสอบสวนได้มีการสอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตามคำร้องขอหรือไม่ นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า เป็นความลับทางสำนวน เราไม่รู้ว่าท่านสอบใครหรือไม่ เรามีหลักการว่าความเห็นของ นายปิยบุตร ที่วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ เป็นการวิจารณ์ทางกฎหมายตามหลักวิชาการ ไม่ได้ดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ จึงขอให้สอบนักวิชาการกฎหมายและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมด้วย เราทราบในชั้นพนักงานสอบสวนไม่มีการสอบ แต่จากนั้นเขาจะสอบหรือไม่เราไม่ทราบ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 มี.ค.62 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ กรณีการเสนอพระนามการเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงฯ เป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.2562 โดยศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า หลักการประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่สถาปนามาตั้งแต่การปฏิวัติสยาม ปี 2475 กำหนดให้สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพ และต้องเป็นอยู่เหนือการเมือง การเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงฯ มาเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารของประเทศ ทำให้ราชวงศ์อาจตกเป็นที่ตำหนิได้ โดยเฉพาะในช่วงการหาเสียง ที่มีการใส่ร้ายป้ายสีกันเป็นปกติ นอกจากนี้ การเสนอพระนามฯ ยังเป็นการล้มล้างและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง เนื่องจากการทำให้หลักการที่ได้กล่าวมาเปลี่ยนไป แม้จะยังไม่ทำให้เกิดความสั่นคลอนต่อระบอบการปกครองไม่มาก แต่ก็อาจนำไปสู่ภยันตรายที่ใหญ่หลวงได้ในอนาคต

ซึ่งหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา นายปิยบุตร เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ในขณะนั้นได้อ่านแถลงการคัดค้านคำวินิจฉัยดังกล่าว โดยอ้างว่า เป็นการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น และเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจขององค์กรตรวจสอบ


กำลังโหลดความคิดเห็น