(Police Focus)
เป็นมากกว่าตำรวจสำหรับ “ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ” มีอาวุธประจำกายที่ไม่ใช่ใบสั่ง เปรียบเสมือนหมอที่รักษาอยู่นอกโรงพยาบาล คุ้นตาจากการนำคนป่วยส่งโรงพยาบาล ช่วยทำคลอดหญิง รวมไปถึงการซ่อมรถ จึงถูกยกให้เป็นผู้พิทักษ์บนท้องถนน อาจตรงกันข้ามกับตำรวจจราจรทั่วไปในสายตาประชาชน ใจต้องรักและอดทนจริงหากใครได้มาอยู่ที่นี่ สิ่งที่แลกมาเป็นความภาคภูมิใจยากจะหาได้จากที่อื่น
พ.ต.ท.พลจักร บุนนาค รอง ผกก.6 (ปฏิบัติการพิเศษการจราจร) บก.จร.บช.น.เปิดเผยว่า สมัยก่อตั้งหน่วยตำรวจจราจรโครงการฯพ่อของตน พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค เป็นรองอธิบดีกรมตำรวจ ได้รับผิดชอบด้านจราจร ครั้งหนึ่งตนได้มาอยู่ กก.6 บก.จร.ก็รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจ ที่ผ่านมา ไม่เคยอยู่งานจราจรส่วนใหญ่เติบโตสายสืบสวน รับผิดชอบโดยรวมอยู่ระหว่างศึกษาทำความเข้าใจเพิ่มเติม ตนชอบพัฒนาหน่วยคือสิ่งที่ยึดแนวทางของพ่อเป็นแบบอย่าง
ภารกิจหลักของ กก.6 รับบทบาทเป็น “หมอคน” นำคนป่วยและหญิงใกล้คลอดส่งโรงพยาบาล มีจำนวน 185 ครั้ง ตำรวจเราช่วยทำคลอดบนถนน “หมอถนน” อำนวยความสะดวกการจราจร และ “หมอรถ”ช่างซ่อมรถ นอกจากนี้ ยังนำอวัยวะส่งให้คนป่วยในโรงพยาบาล หัวใจเป็นสิ่งเร่งด่วนที่สุด เนื่องจากต้องแข่งกับเวลา โดยชุดม้าเร็ว หรือ “อัศวินสีน้ำเงิน”จะไปรับหัวใจที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ จากต่างจังหวัด เพื่อส่งให้โรงพยาบาลต่างๆ ในกรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่มีเวลาแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น ในการขนส่งหัวใจ หลังจากแพทย์ต้นทางผ่าออกจากร่างผู้บริจาค บวกลบคูณหารแล้วตำรวจเราเหลือเวลาครึ่งชั่วโมง นำกล่องหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ไปส่งให้แพทย์ปลายทาง เพื่อผ่าใส่ผู้ป่วยที่กำลังนอนรอ ชุดม้าเร็วมีทั้งหมด 15 นาย รถจักรยานยนต์ที่ใช้อยู่อายุนับ 10 ปี ขนาด 250 ซีซี รวม 10 คัน วิ่งได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. ในขณะรถพยาบาลที่ตำรวจขับนำทำความเร็วได้ 150 กม./ชม. ตนได้พยายามจัดหา 500 ซีซี เพิ่มมาอีก 3 คัน
“เหตุใดที่ตำรวจจราจรโครงการฯต้องทำก็เพราะไม่มีหน่วยงานไหนทำ เรามีหน้าที่นำคนป่วยช่วยหญิงใกล้คลอดส่งโรงพยาบาลอยู่แล้ว ไม่รู้หรอกว่าคนที่นอนรอหัวใจเป็นใคร สิ่งที่ต้องทำคือการช่วยต่อชีวิตคนให้สำเร็จ ส่งมอบหัวใจมาแล้วทั้งหมด 24 ดวงไม่เคยพลาด ยอมรับเป็นงานกดดันทำงานภายใต้เวลาจำกัด อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย ผมกังวลว่าเกิดรถจักรยานยนต์เสียบนทางด่วนอาจจะไม่ทัน”
รองผู้กำกับโป้งวัย 42 ปี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ขาดแคลนรถจักรยานยนต์ 5 คัน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ชุดช่วยคลอดฉุกเฉิน หรือชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น เนื่องจากตำรวจอยู่ภาคสนามใช้แล้วทิ้ง ไม่เหมือนแพทย์ล้างทำความสะอาดฆ่าเชื้อใช้ใหม่ได้ อะไรขาดแคลนก็พยายามเติมเต็มอยู่ตลอดแม้บางทีอาจจะแพง อยากให้ศักยภาพเพียบพร้อมมากกว่านี้ตนก็ทำเท่าที่กำลังมี ในฐานะผู้บริหารอยากให้ผู้ปฏิบัติทำงานได้อย่างเต็มที่
สำหรับเส้นทางรับราชการได้แรงบันดาลใจเป็นตำรวจจากพ่อ อดีตนายตำรวจสายบู๊ที่มีความดุดัน แต่พ่อไม่อยากให้เป็นเพราะกลัวจะเหนื่อยแบบพ่อ ด้วยความมุ่งมั่นจึงขอเข้าได้ภายหลัง จบ ป.ตรี คณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง กอส.รุ่น 23 เริ่มรับราชการ รอง สว.ท่องเที่ยว ขึ้น สว.เป็นนายเวร ผบช.ศชต. สว.ตม.สนามบินภูเก็ต สว.กก.ดส.บช.น. สว.บก.สส.บช.น. รอง ผกก.สส.สน.พลับพลาไชย 1 และ รอง ผกก.6 บก.จร.
“ตำรวจจราจรโครงการฯเป็นที่รักอยู่แล้วในสายตาประชาชน ประทับใจตั้งแต่มาอยู่และมั่นใจว่า ตำรวจที่นี่อยู่ด้วยใจที่พร้อมช่วยเหลือประชาชนจริงๆ”