MGR Online - “เลขาธิการ ป.ป.ส.” เผยสถาบันครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญป้องกันลูกหลานติดยาเสพติด หมั่นเฝ้าสังเกตอาการ หากผิดปกติต้องรีบส่งรักษา พบผู้ป่วยทางจิตบางส่วนไม่ได้รับการบำบัด
วันนี้ (25 ก.ค.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยกรณีปัญหาผู้ป่วยจิตเวชจากการเสพยาเสพติดเป็นปัญหาที่สร้างผลกระทบต่อสังคม ว่า การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือ สถาบันครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับบุตรหลาน แต่หากคนในครอบครัวใช้ยาเสพติด การพูดคุยด้วยความรักและความเข้าใจ พร้อมชักชวนให้ลด ละ เลิก ยาเสพติด ถือเป็นสิ่งสำคัญ หากพบสัญญาณเตือนที่เข้าข่ายจะมีอาการทางจิต ขอให้รีบพาเข้ารับการบำบัดก่อนที่จะมีอาการรุนแรง และเมื่อเข้ารับการบำบัดแล้วต้องดูแลประคับประคองไม่ให้กลับไปเสพซ้ำ ที่สำคัญคือ คนใกล้ชิด ชุมชน ต้องเข้าใจ และให้เวลาผู้ป่วย เพราะการเลิกยาเสพติดไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในทันที
“สำหรับผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวช จากรายงานผู้เข้ารับการบำบัดและมีการรักษาอาการทางจิตร่วมด้วย พบว่า ในปีงบประมาณ 2563 (ต.ค. 62 - 22 ก.ค. 63) มีจำนวน 5,532 ราย จากผู้เข้ารับการบำบัดทั้งหมด 145,029 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.81 และสิ่งที่น่ากังวลคือ ยังมีผู้ใช้ยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่ง ที่เริ่มมีอาการทางจิตแต่ไม่ได้เข้ารับการบำบัดรักษา”
นายนิยม กล่าวอีกว่า ป.ป.ส. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ได้บูรณาการดำเนินงานเพื่อป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหาเพื่อลดผลกระทบของผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิต ซึ่งขั้นตอนการป้องกันเฝ้าระวัง ถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญที่สุด โดยญาติ ครอบครัว และคนในชุมชนสามารถสังเกตได้จาก 6 สัญญาณเตือนต่อไปนี้ คือ 1. แยกตัวออกจากสังคม 2. เกิดอาการประสาทหลอน 3. ไม่หลับไม่นอน เดินไปเดินมา 4. พูดจาคนเดียว 5. ฉุนเฉียวหงุดหงิด และ 6. คิดหวาดระแวง และหากมีสัญญาณเตือนที่จะก่อความรุนแรง เช่น ทำร้ายร่างกายตนเอง ส่งเสียงดัง และ ทำลายข้าวของ ขอให้รีบนำส่งสถานพยาบาล หรือหากมีอาการที่รุนแรง มีอาวุธ ขอให้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสายด่วนการแพทย์ฉุกเฉิน โทร. 1669 เพื่อให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านต่อไป และเมื่อผู้ป่วยกลับมาบ้านหรือชุมชน ขอให้ดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยความเข้าใจ ให้ทานยาอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงสภาวะกดดัน
นายนิยม กล่าวต่อว่า ชุมชนเป็นกลไกที่สำคัญในการต่อสู้กับปัญหายาเสพติด ความเข้มแข็งของชุมชนจะเป็นปราการในการป้องกันไม่ให้สมาชิกในชุมชนข้องแวะกับยาเสพติด และช่วยดูแลสมาชิกในขุมชนที่ผ่านการบำบัดไม่ให้กลับไปเสพซ้ำ หากครอบครัว ชุมชน หรือผู้ใกล้ชิด นำผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาตั้งแต่เริ่มแรก ไม่ปล่อยไว้จนกระทั่งอาการทางจิต ก็ถือเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ซึ่งสามารถนำเข้ารับการบำบัดรักษาได้ที่สถานพยาบาลของรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ และประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหายาเสพติดได้ด้วยการร่วมกันดูแล และเฝ้าระวังผู้ที่มีอาการผิดปกติทางจิตจากการใช้ยาเสพติด โดยสามารถปรึกษาปัญหาได้ที่สายด่วน กรมสุขภาพจิต โทร. 1323 และหากพบบุคคลที่มีพฤติการณ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แจ้งเบาะแสยาเสพติดได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง