MGR Online - “นุกูล” อดีต ส.ส.นครสวรรค์ เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบให้ปากคำแผนชิงตัว “บรรยิน” ยืนยันไม่เคยร่วมวางแผนหรือเข้าเยี่ยม แม้สุธนอ้างชื่อบรรยินก็ไม่ขอคุยต่ออีก
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ อดีต ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกในฐานะพยานคดีการวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังได้รับการติดต่อจากนายสุธน หรือ โจ ทองศิริ ลูกน้อง พ.ต.ท.บรรยิน ให้ร่วมขบวนการแต่ทาง พ.ต.ท.นุกูล ได้ปฏิเสธไม่ร่วมแผนการด้วย
โดย พ.ต.ท.นุกูล กล่าวเพียงสั้นๆ แก่สื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอว่า “รายละเอียดต่างๆ ขอให้การกับพนักงานสอบสวนก่อน ยืนยันว่า ไม่มีความกังวลใจกับการมาให้ปากคำวันนี้แต่อย่างใด” ก่อนจะรีบเดินเข้าอาคารสำนักงานกองบังคับการปราบปราม เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำหรับประเด็นที่พนักงานสอบสวนจะมีการสอบปากคำ พ.ต.ท.นุกูล นั้น เบื้องต้นจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับการติดต่อระหว่าง พ.ต.ท.นุกูล กับ นายสุธน และประเด็นรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับแผนการชิงตัว อย่างไรก็ตาม ขณะที่ในส่วนของพยานบุคคลอีก 2 คน คือ นายกรณ์ กันเที่ยง ทนายความที่ประกันตัวนายสุธน หรือ โจ และ นายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ ลูกชาย พ.ต.ท.บรรยิน ที่ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้มาเข้าพบด้วยเช่นกันนั้น เบื้องต้น ตามกำหนดหมายเรียก นายกรณ์ จะมาเข้าพบในวันที่ 30 มิ.ย. ส่วน นายวรภัทร์ จะมาเข้าพบวันที่ 1 ก.ค. ที่จะถึงนี้
ต่อมาเวลา 13.20 น. พ.ต.ท.นุกูล กล่าวภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยได้รับการติดต่อโดยตรงจาก พ.ต.ท.บรรยิน และขอปฏิเสธว่าไม่รับรู้ถึงการวางแผนการดังกล่าว ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า นายสุธน หรือ โจ ลูกน้อง พ.ต.ท.บรรยิน ติดต่อมาหาตนเพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับแผนการดังกล่าวนั้น รายละเอียดในส่วนนี้ตนไม่ขอเปิดเผย เพราะได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวกับทางพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการสอบปากคำ พ.ต.ท.นุกูล ในครั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้มีการตั้งคำถามทางคดีหลายประเด็น โดยใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมงครึ่ง จึงแล้วเสร็จ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้สำนวนคดีดังกล่าวมีความรัดกุม โดยจากการสอบปากคำดังกล่าว พ.ต.ท.นุกูล ได้มีการชี้แจงกับทางพนักงานสอบสวน ว่า ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากนายสุธน ให้วางแผนช่วยเหลือ พ.ต.ท.บรรยิน จริง แต่ยืนยันว่า ได้ตอบปฏิเสธไม่ขอร่วมแผนการ และยืนยันว่า ไม่ทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการดังกล่าว เพราะเพียงนายสุธน เอ่ยชื่อ พ.ต.ท.บรรยิน ก็ไม่ขอคุยต่ออีก แต่ นายสุธน ก็ยังพยายามโทร.ติดต่อไปขอเงิน แต่ก็ยังคงตอบปฏิเสธกลับไปอีกครั้ง ส่วนการที่ นายสุธน ได้เบอร์โทรศัพท์มือถือของตนเองมาจากไหนนั้น ในส่วนนี้ตนไม่ทราบจริงๆ เพราะเบอร์โทรศัพท์นี้ตนเปิดใช้มาตั้งแต่สมัยยังเป็น ส.ส. เมื่อปี 2550 จนถึงวันนี้ก็ยังใช้เบอร์เดิมอยู่
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า คำให้การของ พ.ต.ท.นุกูล ยังบอกอีกด้วยว่า นับตั้งแต่ที่ พ.ต.ท.บรรยิน ติดคุกนั้น ก็ไม่เคยไปเยี่ยมที่เรือนจำเลยสักครั้ง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ซึ่งคำให้การในส่วนนี้ของ พ.ต.ท.นุกูล ค่อนข้างสอดคล้องกับข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่ได้รับ เนื่องจากก่อนหน้านี้ เคยมีการตรวจสอบประวัติการเข้าเยี่ยม พ.ต.ท.บรรยิน ที่เรือนจำของบุคคลต่างๆ ซึ่งไม่ปรากฏชื่อของ พ.ต.ท.นุกูล เคยมาเข้าเยี่ยมแต่อย่างใด