xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ส.เผาทำลายกัญชาปนเปื้อนสารเคมี รวม 13 ตัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ป.ป.ส. ร่วม บช.ปส. และหน่วยงานภาคี จัดพิธีเผาทำลายกัญชาของกลางที่จับยึดได้ หลังตรวจพบสารเคมีกำจัดศัตรูพืช-โลหะหนักปนเปื้อน นำไปใช้ทางการแพทย์ไม่ได้

วันนี้ (12 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เป็นประธานในพิธีเผาทำลายกัญชาของกลางที่ไม่สามารถนำไปใช้ในการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ได้ โดยมี พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้บริหารจากหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายพรพจน์ บัณฑิตยานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ รอง ผบช.ปส. และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเผาทำลายกัญชาของกลาง น้ำหนัก จำนวนรวม 13 ตัน

นายนิยม กล่าวว่า กัญชาที่นำมาเผาในครั้งนี้ เป็นกัญชาของกลางน้ำหนักรวม 13 ตัน ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ขออนุญาตครอบครอง ซึ่งได้มีการตรวจพิสูจน์แล้ว พบว่า ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้ ประกอบกับไม่มีผู้ขอไปทำการศึกษาวิจัย เนื่องจากมีสารปนเปื้อนทั้งเคมีกำจัดศัตรูพืชและโลหะหนักเกินค่ามาตรฐาน อีกทั้งยังมีเชื้อรา โดยการเผาทำลายนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้เผาทำลายไปเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 62 น้ำหนักจำนวน 10 ตัน รวมทั้งสิ้นที่เผาทำลายทั้งหมดน้ำหนักจำนวน 23 ตัน

นายนิยม กล่าวต่อว่า ผลจากการตรวจพิสูจน์ยืนยันได้ว่า กัญชาที่จับยึดได้ไม่ว่าจะห่อหุ้มด้วยแผ่นฟอยล์ใดๆ เช่น ม่วง แดง ทอง เงิน หรือห่อด้วยแผ่นพลาสติกทั้งที่มีด้ายแดงหรือไม่มี ล้วนลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งหมดพบมีสารปนเปื้อน ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือโลหะหนักมากเกินกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัยทั้งสิ้น จึงเท่ากับผู้ใช้หรือผู้เสพกัญชาดังกล่าวได้นำสารเคมีเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกาย และจะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงขอแนะนำให้ผู้ใช้หรือผู้เสพได้แสดงตัวเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา

นายนิยม กล่าวอีกว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีนโยบายผ่อนปรนให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยเท่านั้น โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ยังคงเดินหน้าขอใช้ประโยชน์จากกัญชาที่จับยึดได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการสนับสนุนให้แก่หน่วยงานต่างๆ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัย

“ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่มีความต้องการจะดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับกัญชา ขอให้ติดต่อสอบถามได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1556 และ สายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. 1386 อย่างไรก็ตาม กัญชายังคงเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย หากพบเบาะแสเกี่ยวกับการเสพ ครอบครอง หรือจำหน่ายกัญชา ที่ไม่ได้รับอนุญาต สามารถให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 ตลอด 24 ชั่วโมง” เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้าย








กำลังโหลดความคิดเห็น