MGR Online - “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” เผยข้อมูลร้องเรียนถูกหลอกขายหน้ากากอนามัยมากที่สุด ในสถานการณ์โควิด-19 พร้อมตั้ง “ตู้ปันสุข ปันน้ำใจ เพื่อประชาชน” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
วันนี้ (1 มิ.ย.) คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสารโดยระบุว่า ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้จัดตั้ง “ศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมพิเศษในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศูนย์ DSI COVID-19)” ซึ่งมีภารกิจหน้าที่สำคัญในการดำเนินมาตรการเชิงรุก ด้วยการเฝ้าระวัง ติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์ และดำเนินการป้องกัน ปราบปราม สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมพิเศษในกรอบภารกิจและอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ซึ่งรวมถึงการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทั่วไป เช่น การหลอกลวงผ่านระบบคอมพิวเตอร์ในรูปแบบต่างๆ ข่าวลวงที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย (FAKE NEWS) การฉ้อโกง กักตุน ในเรื่องสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเปิดช่องทางให้ประชาชนทั่วไปสามารถแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสการกระทำผิดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ นั้น
กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ใช้ระบบ DSI CRIME MAP โดยการใช้ระบบภูมิสารสนเทศ หรือ GIS มาใช้ในการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งจากข้อมูลเบาะแสต่างๆ ที่เกี่ยวกับสินค้าควบคุมและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามายังศูนย์ DSI COVID-19 ในห้วงเดือนพ.ค.63 พบว่า กลุ่มสินค้าที่มีการหลอกลวงขายพี่น้องประชาชนจากมากไปหาน้อย คือ หน้ากากอนามัย ชุดตรวจโควิดแม่นยำ เจลล้างมือ ยาฟ้าทะลายโจร เครื่องพ่นเชื้อนาโน ยาฆ่าเชื้อโรคเดทตอล เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ กางเกง ที่นอนและโทรศัพท์มือถือ ตามลำดับ โดยพื้นที่ที่มีการแจ้งเบาะแสว่าถูกหลอกลวงมากที่สุด คือ ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปทุมธานี และภาคที่น้อยที่สุดคือ ภาคเหนือ รวมมูลค่าความเสียหายที่ได้รับร้องเรียนมาทั้งสิ้นกว่า 34 ล้านบาท
ส่วนวิธีการกระทำผิด พบว่า คนร้ายมีการหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ผ่าน Facebook, เว็บไซต์, Twitter และ Line เป็นหลัก โดยใช้การชำระเงินผ่านธนาคารมากที่สุด โดยใช้ Application Mobile Banking และจะใช้วิธีชำระเงินครั้งเดียว หรือมีการวางมัดจำก่อน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องที่มีการหลอกลวงที่มีผู้เสียหายจำนวนมากไว้สืบสวนแล้วจำนวน 10 เรื่อง และเป็นเรื่องตรวจสอบจำนวน 1 เรื่อง อยู่ระหว่างการพิจารณาจำนวน 25 เรื่อง และอีก 102 เรื่อง อยู่ระหว่างพิจารณาประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
นอกจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษยังได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าปราบปรามจับกุมผู้ที่กักตุนโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าควบคุม เพื่อมิให้ซ้ำเติมประชาชนในยามนี้ ตลอดจนการประสานให้ความช่วยเหลือหญิงไทยที่เดินทางไปทำงานยังต่างประเทศ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้นายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างค่าแรง อีกทั้งยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ เนื่องจากถูกนายจ้างยึดหนังสือเดินทางไว้ ตลอดจนการเข้าตรวจค้นกรณีการแอบอ้างประกาศขายหน้ากากอนามัยจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560
กรมสอบสวนคดีพิเศษตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้จัดตั้ง “ตู้ปันสุข ปันน้ำใจ เพื่อประชาชน” บริเวณหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ริมถนนแจ้งวัฒนะ และบริเวณที่ทำการของศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในพื้นที่ภาคต่างๆ อีกจำนวน 10 แห่ง เพื่อเป็นสถานที่สำหรับใช้เป็นสื่อกลางในการแบ่งปันอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน สำหรับแบ่งปันช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
กรมสอบสวนคดีพิเศษมุ่งมั่นปราบปรามอาชญากรรมพิเศษและพร้อมอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดในเรื่องต่างๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ให้ความสำคัญและพิจารณาดำเนินการในทุกเรื่องที่ได้รับข้อมูล โดยมีทั้งการเข้าดำเนินการเองและประสานงานกับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ รวมทั้งนำข้อมูลที่ได้รับจัดเก็บในฐานข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงการกระทำผิดต่างๆ และเพื่อนำข้อมูลที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนต่อไป ตลอดจนเพื่อให้ปัญหาของพี่น้องประชาชนได้รับการแก้ไขและรักษาความลับของผู้ให้ข้อมูล
โดยขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนส่งข้อมูลผ่านช่องทางการร้องทุกข์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งช่องทางร้องเรียนของศูนย์ DSI COVID-19 และสามารถติดตามสถานการณ์ของ
การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยและทั่วโลก รวมทั้งสถานการณ์อาชญากรรมที่เกี่ยวกับสินค้าควบคุมที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับไว้ดำเนินการได้ตาม QR CODE ที่ปรากฏนี้ ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ)”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตู้ดีเอสไอปันสุข ปันน้ำใจ เพื่อประชาชน ในแต่ละภาคทั่วประเทศ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงานศูนย์ดีเอสไอภาค ดังนี้ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 1 (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) อาคารศูนย์ส่งเสริมการท่องเที่ยว องค์การบริหารส่วนจังหวัดอยุธยา ถ.อู่ทอง ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000, ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 2 (จังหวัดชลบุรี) เลขที่ 159/191 หมู่ 5 ถ.พัทยาเหนือ ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150
ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 3 (จังหวัดนครราชสีมา) เลขที่ 1849/6 ถ.ร่วมเริงชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000 , ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 4 (จังหวัดขอนแก่น) เลขที่ 177/49 ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 , ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 (จังหวัดเชียงใหม่) เลขที่ 79/2 หมู่ 2 ถ.เจริญราษฏร์ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000
ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 6 (จังหวัดพิษณุโลก) เลขที่ 5 หมู่ 5 อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรม ชั้น 2 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000 , ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 7 (จังหวัดนครปฐม) เลขที่ 99/20 หมู่ 5 ต.ยายชา อ.สามพราน จ.นครปฐม 73110 , ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 8 (จังหวัดสุราษฎร์ธานี) เลขที่ 58/33 หมู่ 5 ถ.สุราษฎร์-ปากน้ำ ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฏร์ธานี 84000
ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 9 (จังหวัดสงขลา) เลขที่ 137/4 หมู่ 8 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา 90120 และ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ค่ายอิงคยุทธบริหาร เลขที่ 2 หมู่ 7 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 94170