MGR Online - ตร.บางนา-สืบ 5 จับหนุ่มโรงงานเหล็ก ติดหนี้พนันออนไลน์ ตระเวนหลอกซื้อของออนไลน์ นัดพบจ่ายแบงก์กาโม่ฉกทรัพย์หลบหนี รับเลียนแบบหนังโจรกรรมต่างชาติ ประวัติก่อเหตุโชกโชน
วันนี้ (29 พ.ค.) พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 สั่งการ พ.ต.อ.ปิโยรส กัณหะสิริ ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.บางนา พ.ต.ท.ศุภากร แก้วเขียว รอง ผกก.สส.บางนา พ.ต.ต.เพิ่มสกุล นิลขำ สว.สส.บางนา ชุดสืบสวน บก.น.5 และ สน.บางนา จับกุม นายสิริพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ธนบัตรปลอมลายการ์ตูน 105 ฉบับ และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ได้ภายในซอยเทพารักษ์ 66 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มี น.ส.ญาตาวี (สงวนนามสกุม) ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางนา ว่า ได้ประกาศขายโทรศัพท์ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยนัดส่งสินค้ากับผู้ซื้อที่บริเวณป้ายรถประจำทาง ตรงข้ามเซ็นทรัลบางนา แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ กระทั่งพบชายไทยอายุ ประมาณ 20 ปี ได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ 150 ซีซี สีน้ำเงิน ทะเบียน 1ขฐ 5358 กรุงเทพมหานคร อ้างว่าเป็นผู้ซื้อ ได้ให้ธนบัตรปลอมลายการ์ตูน แล้วกระชากโทรศัพท์ก่อนขับรถหลบหนีไป
จากการสืบสวนทราบชื่อคนร้าย นายสิริพงศ์ ทำงานอยู่บริษัทโลหะแห่งหนึ่งในซอยเทพารักษ์ 66 ต.เทพารักษ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบ นายสิริพงศ์ กำลังเดินออกมาจากบริษัท จึงเข้าตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือของ น.ส.ญาตาวี จากนั้นคุมตัวไปตรวจค้นห้องพักพบของกลางทั้งหมด ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.บางนา
จากการสอบสวน นายศิริพงศ์ ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนทำงานที่โรงงานเหล็กแห่งนี้ได้เพียง 3 เดือน ชื่นชอบเล่นพนันออนไลน์จนเป็นหนี้สิน และติดยาเสพติดสี่คูณร้อย หรือน้ำกระท่อม พยายามหารายได้ทางลัด ประกอบกับชื่นชอบภาพยนตร์ต่างประเทศ แนวโจรกรรมปล้นทรัพย์ คิดลอกเลียนแบบด้วยการตั้งเฟซบุ๊กปลอม แล้วหาซื้อสินค้าออนไลน์โดยมีเงื่อนไขต้องนัดพบส่งสินค้าเท่านั้น จากนั้นจะนำแบงก์ปลอมรูปการ์ตูนม้วนรัดด้วยหนังยาง เมื่อเหยื่อรับเงินจะกระชากทรัพย์เหยื่อ แล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป มักก่อเหตุในลักษณะนี้ทุกครั้ง ใช้เบอร์โทรศัพท์จากซิมที่ขโมยมา เพื่อยากต่อการติดตามตัวแต่มาถูกจับกุมไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง คาดว่า คนร้ายก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้ เมื่อทำการขยายผลพบว่า คนร้ายเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายแห่ง อาทิ ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์กล้องถ่ายรูป พื้นที่ สน.วัดพระยาไกร ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โทรศัพท์มือถือ พื้นที่ สน.บางนา ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โทรศัพท์มือถือ พื้นที่ สน.บางนา ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ พื้นที่ สน.บางนา ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ พื้นที่ สภ.บางพลี และก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ พื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.