ตำรวจเรียกลุงแท็กซี่-หนุ่มวิน จยย.วิวาทกลางถนน เข้าสอบปากคำ

MGR Online - ตำรวจเพชรเกษม เรียกลุงคนขับแท็กซี่ และ หนุ่มขี่วิน จยย.รับจ้าง คู่กรณีก่อเหตุทะเลาะวิวาทกลางถนนย่านบางแค เข้าให้ปากคำ

จากกรณีโลกออนไลน์แห่แชร์คลิปหนุ่มขี่จักรยานยนต์ปาดหน้ารถแท็กซี่ แล้วโดนชนท้าย จึงคว้าหมวกกันน็อกฟาดโชเฟอร์แท็กซี่ซึ่งเป็นผู้สูงอายุจนบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณถนนราชพฤกษ์ แยกบางพฤกษ์ (กัลปพฤกษ์-บางบอน 1) แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ ตามที่เสนอข่าไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (28 พ.ค.) ที่ สน.เพชรเกษม พ.ต.ต.ณัฐพงษ์ จันทร์อุทัย สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม ได้เรียก นายเม้ง แซ่เฮง อายุ 75 ปี โชเฟอร์แท็กซี่โตโยต้า อัลติส สีชมพู ทะเบียน ทษ 1058 กรุงเทพมหานคร ของสหกรณ์แท็กซี่ไทยจำกัด และ นายพชร เอี่ยมโมฬี อายุ 32 ปี คู่กรณีซึ่งขับรถจักรยานยนต์รับจ้างในซอยกำนันแม้น ที่ขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาวแดง ทะเบียนป้ายเหลือง 1 กฆ 3860 กรุงเทพมหานคร เข้าพบเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม

นายเม้ง เปิดเผยว่า วานนี้ก่อนเกิดเหตุ ตนเดินทางมาจากหมอชิต มุ่งหน้าแยกกำนันเเม้น เพื่อจะนำรถไปอู่ โดยใช้ถนนกัลปพฤกษ์ วิ่งเลนขวาตลอดทาง จู่ๆ คู่กรณีซึ่งมีผู้หญิงนั่งซ้อนท้ายมาด้วย ก็ขี่มาเบียด และเเสดงความไม่พอใจ โดยใช้เท้าถีบรถแท็กซี่ของตน พร้อมกับตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย กระทั่งคู่กรณีจอดรถให้ผู้หญิงที่ซ้อนท้ายลงระหว่างทาง และบิดคันเร่งตามมาดักหน้ารถตนอย่างกระชั้นชิด ตนหยุดรถไม่ทัน จึงเกิดการเฉี่ยวชน และทำให้รถคู่กรณีไถลไปชนท้ายรถกระบะที่อยู่ข้างๆ

นายเม้ง กล่าวต่อว่า พอคู่กรณีลุกขึ้น ก็เดินมาที่รถของตนเอง ตนก็ลดกระจกลงเพื่อจะเจรจา แต่คู่กรณีได้ใช้หมวกกันน็อกฟาดเข้ามาที่ศีรษะอย่างแรงจนแตก แถมยังชกเข้าศีรษะและใบหน้าอีกหลายครั้ง ตนจึงเอื้อมมือไปหยิบไขควงที่หน้ารถ เพื่อจะนำมาใช้ป้องกันตัว แล้วลงจากรถเพื่อต้องการเคลียร์กับคู่กรณี แต่ก็ถูกคู่กรณีทำร้ายร่างกายไม่ยั้งตามที่ปรากฏในคลิป ส่วนไขควงที่อยู่ในมือตนยังไม่ได้ใช้ และไม่รู้ว่าหลุดจากมือไปตอนไหน โดยหลังเกิดเหตุตนเข้าแจ้งความและไปรักษาตัวที่ รพ.ตากสิน แพทย์เย็บที่ศีรษะ 2 เข็ม หน้าผาก 3 เข็ม ข้อศอกขวา 4 เข็ม แขนทั้ง 2 ข้างถลอกบวมช้ำ หน้าตาบวมปูด และตอนนี้มีอาการปวดชายโครงข้างขวา ซึ่งตนคิดว่าคู่กรณีทำรุนแรงเกินไป

นายเม้ง กล่าวว่า จากนี้ตนจะให้อภัยคู่กรณีหรือไม่ อยู่ที่คู่กรณีว่าจะทำอย่างไร ก็ขอปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เเต่ที่สำคัญตนเองต้องขาดรายได้ ในการส่งค่าเช่าบ้านที่อยู่กับครอบครัว เดือนละ 2,000 บาท ค่าเช่ารถวันละ 400 บาท เนื่องจากไม่สามารถขับรถได้ ต้องรักษาตัวอยู่บ้านเฉยๆ ขณะที่แพทย์ยังไม่ระบุว่าตนต้องรักษาตัวกี่วัน จากนี้จึงวางแผนไว้ว่าจะนำเงินเยียวยา 5,000 บาท ที่ได้จากรัฐบาลเเละเบี้ยผู้สูงอายุที่ได้เดือนละ 700 บาท นำมาใช้ประทังชีวิตก่อน

ด้าน พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่า ผลการสอบปากคำคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้น นายพชร หนุ่มวินจักรยานยนต์ยอมรับสารภาพในข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ปฏิเสธข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย จากกรณีที่จักรยานยนต์ตัวเองไถลไปชนรถกระบะด้านหน้า หลังจากที่ถูกรถแท็กซี่ของนายเม้ง ชนท้าย ส่วน นายเม้ง ก็ยังให้การภาคเสธ โดยระบุว่า คู่กรณีตั้งใจมาขับปาดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้หยุดรถตัวเองไม่ทันพุ่งชนท้ายอย่างจัง จึงต้องรอผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุ ผลตรวจสภาพรถคู่กรณีทั้ง 2 คัน จากกองพิสูจน์หลักฐาน และผลตรวจจากแพทย์เพื่อระบุว่า นายเม้ง ต้องพักรักษาตัวกี่วัน หากเกิน 20 วัน ก็จะต้องแจ้งข้อหาทำร้ายร่างผู้อื่นเป็นเหตุทำให้ได้รับอันตรายสาหัสเพิ่มเติม ก่อนนัดคู่กรณีทุกฝ่ายมาให้ปากคำเพิ่มเติมต่อไป