MGR Online - ผบ.ตร.หวั่นโควิด-19 กลับมาระบาดหนัก สั่งเพิ่มความเข้มในการตรวจตรา บังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง จริงจัง หลังสถิติจับกุมฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ลด พบยังมีกลุ่มบุคคลจัดปาร์ตี้มั่วสุมเสี่ยงแพร่เชื้อในหลายพื้นที่
วันนี้ (14 พ.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดระยะในห้วงที่ผ่านมา ยังคงพบว่า มีผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศข้อกำหนด อันมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และอาจส่งผลทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดกลับมารุนแรงขึ้นอีกนั้น ในกรณีที่มีผู้ฝ่าฝืนออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้น หรือมีเหตุจำเป็น อาทิ เหตุการณ์เมื่อคืนของวันที่ 13 พ.ค. 63 กรณีตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จับกุมชาวต่างชาติ หรือ กรณีฝ่าฝืนรวมกลุ่มชุมนุม มั่วสุม ในเคหสถานในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือ กรณี ตำรวจ สภ.บ่อผุด เข้าจับกุมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และคนไทย 24 คน มั่วสุมดื่มสุราในร้านอาหาร เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา หรือ กรณีสายตรวจร่วมในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จับกุมวัยรุ่น 5 คน มั่วสุมเสพยาเสพติดและตั้งวงดื่มสุรา เมื่อคืนวันที่ 13 พ.ค. 63 ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าวมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต้องต่อการแพร่ระบาดและเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดเจน
“ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยร่วมปฏิบัติทุกภาคส่วน ได้ขับเคลื่อนกลไกการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ให้เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลกำหนด ตลอดจนการให้ความร่วมมือในภาคประชาชน ส่งผลให้มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนลดน้อยลง จนเป็นที่น่าพอใจตามลำดับ” รองโฆษก ตร.ระบุ
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับหน่วยร่วมปฏิบัติ สายตรวจ ชุดเคลื่อนที่เร็ว ทั่วประเทศ เพิ่มความถี่ในการออกตรวจตรา กดดัน และบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องและจริงจัง รวมทั้งการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจให้กับประชาชน เพื่อไม่ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดกลับมารุนแรงขึ้นอีก
มีรายงานว่า ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) สรุปยอดจับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม เวลา 22.00 น. จนถึงเช้าวันที่ 14 พฤษภาคม เวลา 04.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นบุคคล รวม 29,539 ราย และยานพาหนะ รวม 22,572 คัน จับกุมผู้ฝ่าฝืนได้ รวมทั้งสิ้น 604 ราย แบ่งเป็น ออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันควร ขับหรือขี่ยานพาหนะเล่น เดินทางกลับที่พักหลังเวลาเคอร์ฟิว และออกมาทำธุระ 517 ราย รวมตัวมั่วสุมในเคหสถานเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ รวม 87 ราย แบ่งเป็น ดื่มสุรา 7 ราย เสพยาเสพติด 20 ราย ลักลอบเล่นการพนัน 19 ราย และอื่นๆ 41 ราย
สำหรับจังหวัดที่มีสถิติการจับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีออกนอกเคหสถานสูงสุด ได้แก่ ภูเก็ต 45 ราย สมุทรสาคร 34 ราย และ ราชบุรี 28 ราย