xs
xsm
sm
md
lg

จับขบวนการค้าหน้ากากอนามัยโก่งราคายึดของกลาง 5,000 ชิ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - สตม. แถลงผลจับกุมหลายคดีหนึ่งในนั้นจับขบวนการค้าหน้ากากอนามัยออนไลน์เกินราคา ยึดของกลางหน้ากากอนามัย 5 พันชิ้น ตรวจสอบเงินหมุนเวียนบัญชี 7 วัน มีมูลค่ากว่า 1.7 ล้านบาท
 
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา รอง ผบช.ตชด.ปฏิบัติราชการ สตม. พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รองผบก.สส.สตม.พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผบก.ตม.2 พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.4 บก.สส.สตม.ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมคดีสำคัญ 5 คดี
 
โดยคดีแรกจับกุม นายชัย และ น.ส.ณัฐ (สงวนนามสกุลและอายุ) พร้อมของกลางหน้ากากอนามัย 5,000 ชิ้น หลังชุดสืบสวน ตม.1 สืบทราบว่า มีบัญชีผู้ใช้ “หวางต้า Amazing’Tom Cafe” ในโปรแกรมวีแชต โพสต์ขายหน้ากากอนามัยให้แก่คนไทยและชาวต่างชาติ โดยไม่จำกัดจำนวน จึงทำทีขอซื้อหน้ากากอนามัย จำนวน 5,000 ชิ้น โดยตกลงซื้อขายกันในราคาชิ้นละ 15 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 75,000 บาท และนัดหมายส่งมอบสินค้าบริเวณจุดจอดรถหน้าโรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ถนนกำแพงเพชร 6 เขตหลักสี่ เมื่อถึงเวลานัดหมายก็พบนายชัยขับรถมาที่ลานจอด จึงแสดงตัวจับกุมก่อนตรวจสอบภายในตัวรถและกระโปรงท้าย พบลังกระดาษสีน้ำตาลจำนวน 5 ลัง ภายในบรรลุหน้ากากอนามัยยี่ห้อหนึ่ง จำนวน 5,000 ชิ้น จึงเข้าตรวจยึดไว้
 
โดย นายชัย รับสารภาพว่า สาเหตุที่โพสต์ผ่านโปรแกรมวีแชต เพราะสามารถพูดภาษาจีนได้ ซึ่งอาจมีลูกค้าชาวต่างชาติให้ความสนใจนอกเหนือจากลูกค้าชาวไทย ซึ่งในการซื้อขายแต่ละครั้ง จะมี นางสาวณัฐ เป็นนายทุน เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัว นางสาวณัฐ มาสอบสวน โดยให้การว่า มีหน้าที่เป็นผู้ทำธุรกรรมทางการเงินในการซื้อขายสินค้าจริง และใช้บัญชีชื่อ MR.ZAW นักธุรกิจชาวบังกลาเทศ ในการโอนเงิน และตนจะได้รับส่วนแบ่งจากการขายสินค้าดังกล่าว นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยังคงตรวจสอบการโอนเงินของบัญชีผู้ต้องสงสัยในรอบ 7 วัน มีมูลค่าการหมุนเวียนทางการเงินจากการขายหน้ากากอนามัย เกินกว่า 1.7 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ทำการสอบสวนขยายผลต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมในราคาสูงเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้า” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง แล้วดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
คดีที่สองจับกุม น.ส.ดวง (Ms.Doung) อายุ 33 ปี สัญชาติเวียดนาม หลังได้ร้บการประสานจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บก.สถานีบีทีเอส (BTS) สยาม บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ว่า ต้องสงสัยก่อเหตุล้วงกระเป๋าผู้โดยสารบริเวณในรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง ซึ่งมีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้ว่าโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง ได้หายไป ต่อมาคล้อยหลัง 7 วัน ได้พบ น.ส.ดวง มาที่สถานีสยาม จึงคุมตัวไว้ จากการสอบสวนให้การรับว่าก่อเหตุจริง โดยได้เก็บโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไว้ที่ห้องพักใน ซ.ลาดพร้าว 122 จึงนำกำลังไปตรวจสอบก็พบของกลางรวมทั้งสิ้น จำนวน 46 รายการ ประกอบไปด้วย โทรศัพท์มือถือ จำนวน 38 เครื่อง, เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า รวม 8 รายการ จึงได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินดังกล่าวและได้นำตัว น.ส.ดวง มายัง สตม.เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
 
คดีที่สาม จับกุม นายนครินทร์ อายุ 36 ปี และ นายธนาวุฒิ อายุ 28 ปี พร้อมชาวเวียดนาม 12 คน สืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุมขบวนการช่วยเหลือชาวเวียดนามที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายครั้งก่อน ซึ่งจากการขยายผลพบว่า ขบวนการดังกล่าวจะลักลอบนำชาวเวียดนามเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทางรถโดยสารประจำทางสายนครพนม-กรุงเทพ และ สายหนองคาย-กรุงเทพ จึงได้นำกำลังเข้าสกัดจับกุมรถ 2 คัน ได้ที่บริเวณริมถนนมิตรภาพ ก่อนเข้าตัวเมืองขอนแก่น
 
จากการตรวจค้นพบชาวเวียดนามหลบหนีเข้าเมือง 12 คน โดยในรถสายนครพนม-กรุงเทพ พบชาวเวียดนาม 6 คนนอนหลบซ่อนตัวในห้องนอนของพนักงานขับรถ โดยไม่ได้นั่งในที่นั่งของผู้โดยสารตามปกติ สอบถามชาวเวียดนามแล้ว รับว่า พนักงานประจำรถได้จัดให้พวกตนมาหลบซ่อนในห้องคนขับรถ เพื่อให้พ้นจากการตรวจพบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนรถสายหนองคาย-กรุงเทพ พบชาวเวียดนาม 6 คน แต่นั่งในที่นั่งของผู้โดยสารตามปกติ จึงร่วมกันจับกุมพนักงานขับรถและพนักงานประจำรถตามข้อหาดังกล่าว นำตัวส่ง พงส.สภ.เวฬุวัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น