xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจ ตม.สุวรรณภูมิ ติด “โควิด-19” ส่งคนใกล้ชิดตรวจไม่พบติดเชื้อ กักตัว 14 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รองโฆษก สตม.ยอมรับตำรวจ ตม.สุวรรณภูมิ ติดเชื้อโควิด-19 ส่งตัวคนใกล้ชิดตรวจหาเชื้อ ยันไม่พบติดโรค กักตัวรอดูอาการ 14 วัน


วันนี้ (11 มี.ค.) พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 ในฐานะโฆษก สตม เปิดเผยกรณีเจ้าหน้าที่ ตม.สุวรรณภูมิ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝ่าย ตม.ขาเข้า ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ โดยสาเหตุของการพบอาการป่วย เนื่องจาก บก.ตม.2 มีมาตรการให้ จนท.ตม.ทุกนายตรวจวัดไข้ ก่อน และ หลังปฏิบัติหน้าที่ โดยเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 63 เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้รับการตรวจก่อนออกเวร พบว่า มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว และพบไข้ขึ้นสูงเกิน 37.5 จึงได้ดำเนินการตามมาตรการนำส่ง รพ.ลาดกระบัง เพื่อตรวจอาการ ซึ่งแพทย์เห็นว่ามีแนวโน้มเสี่ยง จึงนำส่ง รพ.กลาง เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนอาการ PUI โดยละเอียด ซึ่งต่อมาวันที่ 9 มี.ค 63 ผลแล็บพบว่าเป็นบวก ซึ่งอาการขณะนี้ มีเพียงไข้ แต่ไม่มีอาการติดเชื้อที่ปอดแต่อย่างใด เนื่องจากถึงมือแพทย์โดยเร็วทันทีที่สงสัยพบอาการ

“นอกจากนั้น ได้ติดตามตรวจสอบผู้ร่วมพักอาศัย พบว่า เจ้าหน้าที่รายนี้พักกับเพื่อนร่วมห้อง ซึ่งนำตัวส่งตรวจแล้ว ไม่พบว่ามีอาการติดเชื้อแต่อย่างใด ขณะที่ในส่วนของ จนท.ซึ่งปฏิบัติงานในเคาน์เตอร์เดียวกัน ก็ได้มีการดำเนินการตามมาตรการของ บก.ตม.2 โดยนำตัวเข้ารับการตรวจกับแพทย์ ซึ่งผลพบว่าไม่มีอาการติดเชื้อแต่อย่างใด แต่ก็ให้ทำการเก็บตัวที่บ้าน 14 วัน” พ.ต.อ.เชิงรณ ระบุ

รองโฆษก สตม. กล่าวด้วยว่า การดำเนินการตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อ โควิด-19 ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 ได้มีการกำหนดมาตรการมาตั้งแต่ต้น ม.ค. 2560 ทั้งการให้ใช้หน้ากากอนามัย ถุงมือ เพื่อป้องกันการสัมผัส รวมถึงการเช็ดน้ำยาฆ่าเชื้อที่อุปกรณ์ เครื่องมือ ช่องตรวจ ทุก 10 นาที รวมถึงการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนและหลังทำงาน และหากพบว่ามีอาการผิดปกติก็ให้รีบนำส่งแพทย์ ซึ่ง จนท.รายดังกล่าว ก็เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด จะเห็นได้ว่า มาตรการดังกล่าวช่วยลดความเสี่ยงแก่ตัว เจ้าหน้าที่ ตม.ผู้ปฏิบัติ ซึ่งต้องรองรับการตรวจผู้โดยสารจากทั่วโลกกว่าวันละ 60,000 คน ตลอดช่วง 2 เดือนเศษที่ผ่านมา โดยหากไม่มีมาตรการดังกล่าว อาจเกิดความเสียหายรุนแรงขึ้นได้
กำลังโหลดความคิดเห็น