โฆษก ตร.เผยสั่งฝ่ายกฎหมายเช็กถ้อยแถลง “ช่อ พรรณิการ์” อภิปรายนอกสภา กล่าวหารัฐบาล “ลุงตู่” เอี่ยวคดี 1MDB ชี้ ทำให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานรัฐเสียหาย ปชช.สับสน
วันนี้ (24 ก.พ.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณี น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่ และ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนอกสภา กล่าวหา ว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม อาจมีส่วนเกี่ยวข้องคดียักยอกเงินกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติมาเลเซีย หรือ 1MDB นั้น
“ขอเรียนว่า ขณะนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมาย พิจารณาตรวจสอบถ้อยคำ ที่แถลงทั้งหมดดังกล่าว ว่า เข้าข่ายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างไร เพราะเป็นการกล่าวหา พาดพิง ให้ร้าย รัฐบาล หน่วยงานรัฐ และเจ้าหน้าที่หลายราย ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรและเกิดความสับสนแก่พี่น้องประชาชน” โฆษก ตร.ระบุ
ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าประการใดจะชี้แจงให้ทราบอย่างเป็นระยะต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณี น.ส.พรรณิการ์ กล่าวหาว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจมีส่วนเกี่ยวข้องคดี 1MDB โดยช่วยเหลือในการควบคุมตัว นายซาเวียร์ อันเดร จัสโต้ สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ พยานคนสำคัญในคดีดังกล่าว ว่า คดีนี้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 ผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ว่า นายซาเวียร์ มีพฤติกรรมข่มขู่กรรโชกทรัพย์และรีดเอาทรัพย์ บริษัทน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทที่นายซาเวียร์ เคยทำงานอยู่ โดยขู่ว่าจะเปิดเผยเอกสารสำคัญของทางบริษัท หลังรับแจ้งความพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การอนุมัติศาลออกหมายจับนายซาเวียร์ ก่อนมีการสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการฟ้องคดี ศาลลงโทษจำคุก 6 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ โทษจำคุกจึงลดเหลือกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 3 ปี แต่จำคุกจริงแค่ปีกว่า ก่อนพ้นโทษออกมา อย่างไรก็ตาม คดีนี้จำเลยไม่ได้ขออุทธรณ์ ฉะนั้น ที่มีการกล่าวหาว่าเอาคนผิด คนบริสุทธิ์มาติดคุก นั้น อยากให้พิจารณาข้อเท็จจริงส่วนนี้ด้วย การกล่าวหาแบบนี้เป็นการบิดเบือนหรือไม่
“คดีนี้ นายซาเวียร์ ยอมติดคุก และไม่ใช้สิทธิอุทธรณ์ด้วย เพราะหากเขามั่นใจว่าตัวเองบริสุทธิ์ ทำไมไม่ใช้ช่องทางตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งอุทธรณ์และฎีกา ซึ่งกระบวนการยุติธรรมของไทยเป็นระบบกล่าวหา การจะกล่าวหาหรือดำเนินคดีกับผู้ใดจะต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน เมื่อตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวน ส่งให้พนักงานอัยการพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ซึ่งเป็นการกลั่นกรองอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งฟ้องต่อศาล ทุกขั้นตอนเป็นอิสระอยู่แล้ว การที่จะบอกว่าเอาคนบริสุทธิ์เข้าคุกนั้น ลักษณะแบบนี้ต้องไปดูว่ามันเป็นไปตามเนื้อผ้าหรือไม่อย่างไร อาจจะเป็นการนำข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงนำไปบิดเบือน เพื่อทำให้เกิดกระแสสังคมหรือไม่” รองโฆษก ตร. และว่า ตำรวจมีการตรวจสอบข้อมูลการแถลงของ น.ส.พรรณิการ์ ว่า มีความถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ หรือ เป็นการนำข้อมูลเพียงบางส่วนแล้วนำมาบิดเบือน ทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงสงสัยการทำงานของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเก่าสมัยที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ซึ่งเป็นเวลาร่วม 6 ปีแล้ว ตนเองไม่ทราบว่านำเรื่องนี้ไปผูกได้อย่างไร