พี่สาวคนตายแฉพฤติกรรมมือปืนยิงกลางห้าง ชอบทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ยันพ่อแม่ฝ่ายหญิง

จากกรณีเกิดเหตุยิงกันภายในห้างเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่า ถ.พญาไท โดยที่เกิดเหตุเป็นคลินิกเสริมความงามบริเวณชั้น 4 เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย คือ นางสาวปิยานุช ฉัตรไทย อายุ 28 ปี โดยผู้ก่อเหตุคือ นายดนุสรณ์ นุ่มเจริญ หรือ เจ อายุ 28 ปี หลังตามจับกุมได้ที่บ้านของพ่อแม่ผู้ก่อเหตุใน ต.ห้วยแม่เพียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (19 ก.พ.) ที่ สน.พญาไท พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รองผบช.น.ได้เดินทางมาสอบปากคำนายดนุสรณ์ ผู้ก่อเหตุ ก่อนออกมาเปิดเผยภายหลังการสอบปากคำนายดนุสรณ์ นานเกือบ 1 ชม. ว่า ผู้ต้องหาการรับสารภาพลงมือก่อเหตุเพราะเกิดมาจากความหึงหวงอดีตภรรยาที่ต้องการหย่า แต่จะถูกยั่วยุจากเพื่อนหรือไม่นั้นยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งหลังก่อเหตุได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องพัก แล้วหลบหนีไปที่ จ.เพชรบุรี โดยตำรวจพยายามให้แม่ผู้ก่อเหตุเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว

ส่วนตอนนี้นายดนุสรณ์มีความสำนึกผิด ยอมรับว่า มีเจตนายิงอดีตภรรยาเท่านั้น แต่กระสุนอาจแฉลบไปถูกเพื่อนผู้ตาย อย่างไรก็ตาม จากนี้ตำรวจจะตรวจหาสารเสพติดในตัวผู้ต้องหา และปืนที่ใช้ก่อเหตุด้วย เนื่องจากคาดว่าอาจเป็นปืนที่ถูกสวมทะเบียน ซึ่งกำลังตรวจสอบความถูกต้อง ทั้งนี้ผู้ต้องหาเป็นคนชอบปืนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเคยซื้อมาเก็บไว้หลายกระบอก แต่ตรวจสอบแล้วไม่พบประวัติการก่อเหตุอาชญากรรม

ด้านพี่สาวของน.ส.ปิยานุช ได้เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนพร้อมเปิดเผยว่า ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา น้องสาวส่งข้อความมาหา ระบุว่าต้องหนีจากนายดนุสรณ์ เพราะอึดอัด ทนไม่ไหว หากอยู่ต่อต้องโดนฆ่าแน่นอน เพราะตลอดเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา น้องสาวถูกทำร้ายร่างกายจนตัวบอบช้ำไปทำงาน และร้ายแรง ที่สุดคือฝ่ายชายข่มขู่ว่าหากเลิกกันจะฆ่าพ่อและแม่ของน้องสาว จนน้องสาวต้องหนีไปอยู่ที่ จ.ชลบุรี แต่ฝ่ายชายกลับตามไปข่มขู่ว่าหากไม่กลับมาจะฆ่าญาติพี่น้องให้หมด

ทั้งนี้ฝ่ายชายไม่เคยส่งเสียเงินเลี้ยงดูลูกตัวเอง แต่เป็นทางพ่อเเละเเม่ของน้องสาวที่เป็นคนดูเเลทั้งหมด ยืนยันว่า น้องสาวตัวเองไม่เคยมีชู้ แต่ทนพฤติกรรมของฝ่ายชายไม่ได้ ซึ่งตนพยายามที่จะกู้ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยัน