MGR online - อัยการ เลื่อนสั่งคดีแฟลชม็อบ หลัง “ธนาธร” ยื่นคำร้องขอให้สอบเพิ่มเติม อ้างไม่ได้เป็นการก่อม็อบ แค่นัดพบปะกันถือเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง จึงไม่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ชุมนุม ขณะที่อับการเลื่อนสั่งคดีไปเป็นวันที่ 17 มี.ค.นี้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ก.พ. ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 6 (ปทุมวัน) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมนายไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 5 นครปฐม, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน , นายธนวัฒน์ วงค์ไชย หรือบอล แกนนำวิ่งไล่ลุง และ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ในฐานะผู้ต้องหาเดินทางมารายงานตัว ตามที่อัยการนัดฟังคำสั่งคดีจัดแฟลชม็อบบริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2562 ซึ่งที่สำนักอัยการคดีศาลแขวง 6 (ปทุมวัน) วันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจ สน.บางรัก, สน.พระราชวัง กับ สน.พลับพลาไชย มาคอยดูแลความเรียบร้อย
โดยนายธนาธร กล่าวว่า วันนี้ตนกับผู้ต้องหาอื่นมาฟังคำสั่งอัยการว่าจะส่งฟ้องศาลหรือไม่ เราต่อสู้คดียืนยันในเรื่องความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมนายธนาธรไม่แจ้งการชุมนุมก่อน เป็นการจงใจทำผิดกฎหมายเพื่อปลุกระดมใช่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมการแสดงออกทางการเมือง เป็นสิทธิชอบธรรมของพ่อแม่พี่น้องประชาชน เรายืนยันในสิทธิของเราตรงนี้
เมื่อถามว่า หากอัยการสั่งไม่ฟ้อง จะดำเนินการชุมนุมต่อไปอีกหรือไม่
นายธนาธร กล่าวว่า ฟ้องหรือไม่ฟ้องกับการรณรงค์ทางการเมืองเป็นคนละเรื่องกัน อย่างที่กล่าวหลายครั้งว่าเราไม่ถอยไม่ทนกับอำนาจที่ไม่ยุติธรรม ตนยกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าเราตั้งใจต่อสู้กับอำนาจที่สืบทอดมาจากการรัฐประหาร คือ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้ยื่นญัตติตั้คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการต่อต้านการทำรัฐประหารในอนาคต ซึ่งมีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง พรรคอนาคตใหม่จริงจังในการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยที่ยั่งยืน เราต่อสู้ทั้งในสภาและในบริบทอื่น
ภายหลังเข้านายธนาธรพร้อมกลุ่มผู้ต้องหาเข้าพบอัยการเสร็จสิ้นแล้ว นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของนายธนาธร เปิดเผยว่า วันนี้อัยการยังไม่มีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง เนื่องจากมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม เพราะบางประเด็นในสำนวนยังมีหลักฐานไม่เพียงพอ จึงกำหนดนัดสั่งคดีไปเป็นวันที่ 17 มี.ค. นี้ เวลา 10.00 น. โดยคดีนี้นายธนาธร ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม ขอให้สอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก ประกอบด้วยกลุ่มที่ได้ไปพบปะกับนายธนาธรในวันที่รวมตัวจัดกิจกรรม และนักวิชาการด้านกฎหมาย
นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า เราให้สอบใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1.การรวมตัวดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามคำนิยามชุมนุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 การไปพบปะดังกล่าวจึงไม่จำเป็นต้องแจ้งหรือขออนุญาตเจ้าพนักงานตามกฎหมาย และเป็นการพบปะนั้นเทียบได้กับการที่นายกรัฐมนตรีไปพบกับประชาชนในที่ต่างๆ 2.พ.ร.บ.ชุมนุมฯ กำหนดห้ามจัดชุมนุมใกล้กับเขตพระราชฐานไม่เกิน 150 เมตร ซึ่งฝ่ายผู้ต้องหาได้แจ้งให้เจ้าพนักงานไปวัดระยะทางแล้ว แต่ไม่มีการวัดระยะทางให้ชัดเจน ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ในระยะที่กฎหมายกำหนดไว้ และ 3. กรณีที่จะกล่าวหาว่าเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกรวมตัวแล้วไม่เลิกนั้น ก็ปรากฏว่าไม่มีการแจ้งจากเจ้าพนักงาน ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะสอบสวนเสร็จภายในวันที่ 17 มี.ค.นี้ หรือไม่
ด้าน น.ส.ณัฏฐา กล่าวว่า ในส่วนของตนและเพนกวิน จะยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม ด้วยการยื่นคำให้การเพิ่มเติมต่ออัยการต่างหากจากประเด็นของนายธนาธรด้วย ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่าที่ตน เพนกวิน และบอล ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นช่วงที่เกิดก่อนการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ประมาณ 1 สัปดาห์ ขณะที่เจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ที่ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ก็เพื่อให้มีการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ซึ่งก็ไม่ได้เกิดความวุ่นวายหรือเหตุรุนแรง และสำหรับคดีนี้ถือเป็น 1 ใน 6 คดีที่ตนถูกคดีมา