xs
xsm
sm
md
lg

เด้ง “วิระชัย” เข้ากรุสำนักนายกฯ มีพฤติการณ์ทำราชการเสียหาย - ย้ายขาด “บิ๊กช้าง” ไป ศปก.ตร.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา (แฟ้มภาพ)
“บิ๊กตู่” เซ็นคำสั่งย้าย “วิระชัย ทรงเมตตา” เข้าสำนักนายกฯ เหตุมีพฤติการณ์และการกระทำส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยการยุติธรรม กระทบต่อภาพลักษณ์ของ สตช. และการปฏิบัติราชการของ ผบ.ตร. เป็นเหตุให้ราชการเสียหาย พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตั้งแต่ 21 ม.ค. 63 ด้าน “บิ๊กแป๊ะ” สั่งย้าย “ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย” รอง ผบ.ตร.เข้าฏิบัติราชการ ศปก.ตร.โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม

วันนี้ (24 ม.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยกรณีมีกระแสข่าวสำนักนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีว่า ขอเรียนชี้แจงถึงประเด็นคำถามว่าสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 22/2563 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีจริง คำสั่งดังกล่าวมีเหตุผลมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รายงานว่า พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.มีพฤติการณ์และการกระทำซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ในการอำนวยการยุติธรรม กระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการปฏิบัติราชการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นเหตุให้ราชการเสียหาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 24/2563 ลงวันที่ 21 มกราคม 2563 แล้ว

เพื่อประโยชน์แก่การตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและเรื่องอื่นๆ ในมูลกรณีที่ประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างตรวจสอบให้เป็นไปอย่างโปร่งใส มีความน่าเชื่อถือ และเพื่อให้เป็นที่ยอมรับแก่ประชาชนและผู้ร้องเรียน สมควรพิจารณาสั่งการให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงมตตา รอง ผบ.ตร. ไปปฏิบัติราชการนอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม และให้ได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มพิเศษและสิทธิประโยชน์อื่นใดไม่ต่ำกว่าที่ได้รับอยู่เดิม โดยเบิกจ่ายจากสังกัดเดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นตันไปจนกว่าจะมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประการอื่น สั่ง ณ วันที่ 23 ม.ค. 2563


ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 28/2563 ลงวันที่ 23 มกราคม 2563 ให้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร.ไปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม


สำหรับ พล.ต.อ.วิระชัย เกิดวันที่ 19 ตุลาคม 2504 ที่จ.สมุทรปราการ ปัจจุบันอายุ 59 ปี จบมัธยมต้นโรงเรียนบางพลีราษฎร์บำรุง มัธยมปลายโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 37 พ่วงด้วยปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาเอก สาขาบริหารการพัฒนา คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และปริญญาเอก สาขาสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ผู้บัญชาการศึกษา มีผลงานทำคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน และคดีเครื่องสำอางผิดกฎหมายเครือข่ายเมจิกสกิน

ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิระชัย เป็นนายตำรวจเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วปัจจุบันยังเหลืออายุราชการอีก 2 ปี จึงถูกจับตามองว่ามีโอกาสเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.คนใหม่ แทนพล.ต.อ.จักรทิพย์ ซึ่งจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน นี้

มีรายงานว่าหลังจากที่มีคำสั่งย้าย พล.ต.อ.วิระชัย ให้ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี บรรยากาศที่ห้องทำงานของ พล.ต.อ. วิระชัย ก็เงียบเหงามีเจ้าหน้าที่อยู่เพียง 2-3 คน โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าวันนี้ พล.ต.อ.วิระชัย ติดประชุมภายนอก ไม่ได้เข้ามาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่อย่างใด

พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย (แฟ้มภาพ)


กำลังโหลดความคิดเห็น