MGR online - ศาลดุสิตสั่งปรับ 1 พันบาท "ลูกเกด"ผู้จัดการชุมนุม กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ประท้วงที่สนามบอลธรรมศาสตร์ ส่วนผู้ชุมนุมอีก 43 คนให้ยกฟ้องเหตุพยานหลักฐานโจทก์ไม่มีรายละเอียดชัดเจน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (26 ธ.ค.)ศาลแขวงดุสิตนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำอ.1229/2561 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษคดีแขวง 3 (แขวงดุสิต) เป็นโจทก์ฟ้องนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล กับพวกกลุ่มคนอยากเลือกตั้งรวม 44 คนเป็นจำเลยที่ 1-44 ฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดใดที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาต
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 44 ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายคือวันที่ 24 มี.ค. 2561 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยร่วมกับพวกที่แยกสำนวนดำเนินคดีที่ศาลอาญาและพวกที่ยังไม่ได้นำตัวมาฟ้องอีกประมาณ 350 คน ร่วมกันชุมนุมทางการเมือง มีวัตถุประสงค์ปราศรัยแสดงความคิดเห็นเรียกร้องให้ยุบคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยนัดรวมตัวกันที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตและกีดขวางการจราจร และน.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะในการชุมนุมดังกล่าว ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ เกิดการขัดขวางต่อประชาชนที่จะใช้ทางสาธารณะ ขอให้ลงโทษตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2558 เรื่องรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติลงวันที่ 1 เมษายน 2558 ข้อ 12 พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะพ. ศ. 2558 มาตรา 6,5(2),(4),16(1),(8),18,2830,31 พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา108,114,148 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ,91,92 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 265,279
โดยวันนี้ นายเนติวิทย์ และจำเลยทั้ง 44 คน เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมทีมทนายความและบุคคลใกล้ชิดที่มาให้กำลังใจ
ภายหลังฟังคำพิพากษา น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความจำเลย เปิดเผยว่า วันนี้ศาลพิพากษายกฟ้องในส่วนที่เป็นผู้ชุมนุมทั้งหมด โดยศาลเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ ไม่มีพยานมายืนยัน มีเหตุแห่งความสงสัยว่าแต่ละคนมาชุมนุมอยู่จุดไหน และมีการเคลื่อนขบวนหรือฝ่าฝืนกฎหมายอย่างไร ซึ่งพยานโจทก์ไม่มีใครยืนยัน ดังนั้น ศาลจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัย พิพากษายกฟ้องผู้ชุมนุมทั้งหมด ในส่วนของน.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด ในฐานะที่เป็นผู้แจ้งการชุมนุมและเป็นผู้จัดการชุมนุม ศาลเห็นว่าเป็นผู้จัดมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลการชุมนุมให้เรียบร้อยและเลิกการชุมนุมตามกำหนดเวลา จึงพิพากษาลงโทษปรับน.ส.ชลธิชา ในฐานะเป็นผู้จัดการการชุมนุม เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท ซึ่งแยกกันกับในส่วนของผู้ชุมนุม
ด้าน น.ส.ชลธิชา กล่าวว่า ยืนยันว่าการชุมนุมดังกล่าว เราได้ดำเนินการต่างๆ ที่เป็นการชุมนุมที่ชอบด้วยกฎหมาย มีการแจ้งการชุมนุมล่วงหน้า ซึ่งตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 19 กำหนดหน้าที่ของตำรวจไว้ว่าในกรณีที่มีการเดินบนเส้นทางการจราจรบนถนน ตำรวจมีหน้าที่จัดการจราจร และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ดังนั้น ข้อหาที่เราถูกกล่าวหาว่าไม่ดูแลการจราจร หรือทำให้เกิดผลกระทบกับคนอื่น จึงเป็นหนึ่งในกระบวนการที่เราต่อสู้ได้ อีกทั้ง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 20 ระบุว่า ตำรวจต้องช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องของการชุมนุมทั้งก่อนการชุมนุม ระหว่างและหลังการชุมนุม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้อื่นในฐานะผู้จัดการชุมนุมก็ได้พยายามปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว