หนุ่มร้อง ยธ.ช่วย หลังตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย ยันวันเกิดเหตุอยู่ค่ายวิวัฒน์พลเมือง

MGR Online - หนุ่ม วัย 38 ร้อง ยธ. ขอช่วยเงินประกันตัวคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น หลังเข้าบำบัดยาเสพติดอยู่ในค่ายวิวัฒน์พลเมือง สมุทรสงคราม ยันไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

วันนี้ (17 ธ.ค.) บริเวณหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายฤทธิชัย เสือเดช อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ พร้อม นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้ายื่นเรื่องต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เพื่อขออนุมัติเงินประกันตัว และขอให้ความช่วยเหลือด้านคดี โดยมี ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่องแทน

นายฤทธิชัย กล่าวว่า ยืนยันตนไม่ได้เป็นคนร่วมก่อเหตุฆ่าผู้อื่น ซึ่งวันที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ระบุว่าเกิดเหตุยิงผู้ตายนั้น ตนได้บำบัดยาเสพติดอยู่ในค่ายวิวัฒน์พลเมือง ตามโครงการทางจังหวัดสมุทรสงครามจัดกิจกรรมขึ้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.58 เป็นระยะเวลา 15 วัน ซึ่งในการทำกิจกรรมมีครูอาสาและทหารดูแลตลอด และจะมีการเช็คชื่อทุก 1 ชั่วโมง ดังนั้น จึงมีพยานบุคคลที่สามารถยืนยันได้ว่าตนไม่ได้ออกไปไหนในช่วงเวลา 22.00 ของคืนวันที่ 23 มิ.ย.58 ที่มีเหตุยิงคนตาย แต่ตอนเช้าวันที่ 24 มิ.ย.58 ตำรวจได้มาควบคุมตัวตนเองในค่ายฯ

นายฤทธิชัย กล่าวอีกว่า การสอบปากคำตนยืนยันว่าไม่ได้ทำและเมื่อถามกลับไปว่าตนไปร่วมฆ่ากับใคร ตำรวจก็ไม่ได้ตอบคำถามตน แต่กลับนำตัวไปส่งศาลฝากขังประมาณ 3 เดือน ก่อนจะถูกปล่อยตัว ซึ่งตอนนั้นตนก็เข้าใจว่าคดีความดังกล่าวจบแล้ว กระทั่งเมื่อวันที่ 18 พ.ย.62 ตนได้รับหมายศาลอีกครั้งว่าทางอัยการมีการสั่งฟ้องศาลในคดีดังกล่าวในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ หลังจากที่ตนถูกปล่อยตัวมานานกว่า 4 ปี ตนก็ตกใจเพราะตนไม่มีเงินประกันตัวจำนวน 500,000 บาทเพราะทั้งบ้านแค่เงิน 5,000 บาทยังไม่มีเลย ซึ่งตนตั้งใจกลับตัวเป็นคนดีจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ดังนั้นขอโอกาสให้ตนด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าตนไม่ได้ไปร่วมก่อเหตุกับใคร ซึ่งมีพยานบุคคลเป็นครูอาสาและเพื่อนที่เข้าร่วมรับการบำบัดยาเสพติด

ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ทราบมาว่าทางตำรวจได้ตัดพยานบุคคลเป็นครูอาสาและเพื่อนที่เข้าร่วมรับการบำบัดยาเสพติด ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญเหล่านี้ออกในการส่งสำนวนคดีต่ออัยการ ดังนั้น จึงนำหลักฐานที่ยืนยันว่านายฤทธิเดช อยู่ภายในค่ายบำบัดมายืนยันและขอร้องให้ทางศูนย์ยุติธรรมสร้างสุขช่วยในเรื่องของเงินประกันตัว และหากได้รับการประตัวก็จะร้องขอให้ทางอัยการรับหลักฐานเพิ่มเติมทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันที่อยู่นายฤทธิชัย ในขณะที่เกิดเหตุ

ส่วนทาง ว่าร้อยตรีธนกฤต กล่าวว่า กรณีของนายฤทธิชัย นั้นเข้าตามหลักเกณฑ์ของการช่วยเหลือและจะช่วยเหลือในเรื่องของเงินประกันตัว ซึ่งคาดว่าภายในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ กองทุนยุติธรรมจะดำเนินการเรื่องเงินประกันตัวให้แล้วเสร็จ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ต้องการให้ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุขช่วยให้ทุกคนทั้งยากจนและรวยได้รับความยุติธรรมเท่าเทียมกัน ส่วนกรณีการให้เงินชดเชยที่จำคุกไปแล้วนั้น ต้องให้ทางคดีความจบสิ้นและชัดเจนก่อน อย่างไรก็ตาม ในทางคดีนายฤทธิเดช ก็ต้องว่ากันไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในศาลต่อไป