xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจ ตม.รวบเครือข่ายคนผิวสีจ้างหญิงไทยขนไอซ์เข้าญี่ปุ่น พร้อมรวบหนุ่มกิมจิ หนีคดีโกงแชร์ลูกโซ่กบดานไทย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR online - ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตามรวบแก๊งเครือข่ายคนผิวสีจ้างหญิงไทยขนไอซ์ยัดช่องคลอดไปญี่ปุ่น ขณะเดียวกันยังจับกุมหนุ่มเกาหลีหนีหมายจับโกงแชร์ลูกโซ่ PAY100 มีผู้เสียหายกว่า 5 พันราย ความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท

วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วยพล.ต.ต.พรชัย ขันตี พล.ต.ต.ปฏิพันธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ปฏิบัติราชการ สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.เจนกมล คำนวล รอง ผบก.ตม.1 ร่วมแถลงผลการจับกุมนายอูเชนน่า ฟรายเดย์อายุ 32 ปี ชาวไนจีเรีย และนางปภาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี พร้อมของกลางไอซ์หนัก 520 กรัม ภายหลังสืบทราบว่ามีหญิงชาวไทยถูกจับกุมในประเทศญี่ปุ่นพร้อมไอซ์หลายราย ขณะกำลังลักลอบเข้าประเทศญี่ปุ่น

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ขยายผลทราบว่า มีแก๊งชาวแอฟริกันเป็นผู้ว่าจ้างอยู่เบื้องหลัง ชุดสืบสวนจึงให้สายลับติดต่อกับนายอูเชนน่า ว่าจ้างให้ขนไอซ์จำนวน 520 กรัม ไปขายที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะตกราคากรัมละ 1.7 หมื่นบาท รวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 8.8 ล้านบาท โดยซุกซ่อนใส่ถุงยางสอดเข้าไปในช่องคลอด และจะออกค่าเดินทางตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ในคืนวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมค่าจ้างเที่ยวละ 50,000 บาท โดยนัดเจอที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านอุดมสุข ต่อมาเจ้าหน้าที่พบ น.ส.ปภาพร ขับรถยนต์มาถึงและนำไอซ์ของกลาง 2 แท่ง มาให้กับสายลับ จึงแสดงตัวจับกุมได้พร้อมของกลางไอซ์และเงินสด 800 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 2.4 หมื่นบาท

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ไอซ์) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย และแจ้งข้อหาเพิ่มต่อนายอูเชนน่า เป็นต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ดำเนินคดี พร้อมขยายผลการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป

อีกรายตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแถลงการจับกุมชายสัญชาติเกาหลีหลบหนีหมายจับคดีฉ้อโกง เข้ามาอาศัยในประเทศไทย โดยการจับกุมในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลทางการข่าวจากสถานฑูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ว่า มีบุคคลที่ประกอบธุรกิจ ตั้งเครือข่ายคล้ายแชร์ลูกโซ่ โดยใช้ชื่อ PAY100 หลอกลวงประชาชนให้มาร่วมลงทุนโดย อ้างว่าจะจ่ายผลตอบแทนให้ในรูปแบบเงินดิจิตอล ซึ่งมีชาวเกาหลีใต้และชาวต่างชาติ หลงเชื่อร่วมลงทุนกว่า 5,000 ราย รวมมูลค่าเป็นเงิน 468 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นบุคคลมีหมายจับศาลอาญากลางกรุงโซล และหมายจับของตำรวจสากล ในคดีฉ้อโกง ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยอย่างถูกต้องผ่านทางอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ในวันที่ 1 กันยายน 2562 และได้รับอนุญาตให้อยู่ภายในประเทศไทยได้ถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562

ต่อมาเมื่อได้รับข้อมูลเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบพบว่า บุคคลดังกล่าวคือ นายแจซอง อายุ 53 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ เดินทางเข้ามาภายในราชอาณาจักรอย่างถูกต้อง เนื่องจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับการประสานว่านายแจซองเป็นบุคคลที่มีหมายจับของตำรวจสากล จึงอนุญาตให้อยู่พำนักอยู่ภายในประเทศไทยได้
กระทั่งวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ตรวจคนเข้าเมือง จว.สระแก้ว สามารถควบคุมตัวนายแจซอง และเพิกถอนใบอนุญาตให้อยู่ภายในราชอาณาจักร ก่อนจะผลักดันออกนอกประเทศและส่งตัวให้กับประเทศเกาหลีใต้ดำเนินคดีต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น