“พานทองแท้” ขึ้นศาลฟังคำพิพากษาร่วมกันฟอกเงินกรุงไทย “คุณหญิงพจมาน” พร้อมลูกสาวร่วมเดินทางมาให้กำลังใจเพียบ เจ้าตัวบอกตื่นเต้น ล่าสุดศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากหลักฐานฝ่ายโจทก์ไม่แน่นหนาเพียงพอ
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีฟอกเงิน ทุจริตการปล่อยสินเชื่อของธนาคารกรุงไทยฯ ให้ธุรกิจเครือกฤษดามหานคร คดีหมายเลขดำที่ อท.245/2561 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพานทองแท้ หรือโอ๊ค ชินวัตร อายุ 41 ปี บุตรชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91
คดีนี้ อัยการยื่นฟ้องนายพานทองแท้ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2561 จากกรณีรับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาทเข้าบัญชี กล่าวหาว่าเงินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำจากการทุจริตปล่อยกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทยฯ กับเอกชนกลุ่มกฤษดามหานคร ที่มีนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อายุ 80 ปี ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับนายรัชฎา กฤษดาธานนท์ อายุ 53 ปี บุตรชายของนายวิชัย และอดีตคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ตกเป็นจำเลยในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว โดยคดีนี้อัยการยื่นฟ้องนายพานทองแท้เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 61 นายวิชัย และนายรัชฎา บุตรชาย บริษัทเอกชนในเครือกฤษดา รวม 6 คนนั้นก็ถูกอัยการยื่นฟ้องความผิดฟอกเงินการทุจริตปล่อยกู้ดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเช่นกันด้วย
โดยชั้นพิจารณาศาลอาญาคดีทุจริตฯ นายพานทองแท้ จำเลยให้การปฏิเสธสู้คดีว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง เงินดังกล่าวเป็นส่วนที่จะร่วมลงทุนธุรกิจนำเข้าซูเปอร์คาร์กับนายรัชฎา บุตรชายของนายวิชัย อดีตผู้บริหารกฤษดามหานคร ขณะที่นายพานทองแท้ได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี 1 ล้านบาท พร้อมเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
โดยวันนี้มีกลุ่มคนสนิทนายพานทองแท้เดินทางมาให้กำลังใจตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะที่นายพานทองแท้เดินทางมาพร้อมกับคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา และพี่สาว-น้องสาว รวมทั้งบุคคลในครอบครัว ถึงศาลในเวลา 09.38 น.
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ในการฟังคำพิพากษาวันนี้ นายพานทองแท้กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มเล็กน้อยว่ารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ด้านคุณหญิงพจมานได้ยิ้มทักทายขณะเดินทางมาให้กำลังใจบุตรชายคนโต
ทั้งนี้ บริเวณศาลได้มีการประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.น.1 มาดูแลความเรียบร้อยบริเวณศาลด้วย
ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษาให้ยกฟ้องนายพานทองแท้ ไม่ผิดฐานฟอกเงิน เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่านายพานทองแท้จำเลยได้รู้ที่มาของเงินจำนวน 10 ล้านบาท ที่นายวิชัย กฤษดาธานนท์ โอนเข้าบัญชีว่านายวิชัยได้มาจากการกระทำผิดทุจริตการปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย โดยขณะที่รับโอนเงินนั้นจำเลยมีอายุเพียง 26 ปี และขณะนั้นมีเงินรายได้จากหุ้นในบริษัทอยู่แล้วถึง 4,000 ล้านบาทเมื่อเทียบกับเงิน 10 ล้านบาทแล้วคิดเป็น 0.00 25 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินดังกล่าว ขณะที่โจทก์นำสืบได้เพียงว่าขณะที่รับโอนหุ้นในพานทองแท้เป็นบุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร และมีความสนิทสนมกับครอบครัวของนายวิชัยเพียงเท่านั้น
ขณะที่เมื่อฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้น นายพานทองแท้พูดสั้นๆ ว่าขอบคุณทุกกำลังใจ และรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น ส่วนคุณหญิงพจมานตอบผู้สื่อข่าวว่ารู้สึกสบายใจขึ้น