ผบช.ทท. เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ที่เอเชียทีค ถนนเจริญกรุง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลลอยกระทง
วันนี้ ( 8 พ.ย. ) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่เอเชียทีค เดอะริเวอร์ ฟรอนท์ ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบช.ทท. เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม สร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยมี พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง รองผบช.ทท. พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย รอง ผบก.ทท.1 ตลอดจนกำลังตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจนครบาล ตำรวจสตม. ตำรวจบก.จร. ตำรวจ บช.ปส. ตำรวจน้ำ ทหารเรือ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร กรมเจ้าท่า รวมจำนวน 220 นาย เข้าร่วม
พล.ต.ท.เชษฐา กล่าวว่า สำหรับวันลอยกระทงตามประเพณีไทยจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมากในทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีการจัดกิจกรรมการประกวดกระทงและนางนพมาศ งานแสดงแสงสีเสียง หรืองานเผาเทียนเล่นไฟ ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาการจราจร ปัญหาอาชญากรรมความเดือดร้อนรำคาญและอันตรายที่เกิดจากการเล่นดอกไม้เพลิง พลุประทัดและโคมลอย รวมถึงกลุ่มมิจฉาชีพที่มักแอบแฝงเข้าไปประทุษร้ายต่อทรัพย์สินของประชาชน
พล.ต.ท.เชษฐา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้รัฐบาลและกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวมีความห่วงใยประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จึงสั่งการไปยังทุกหน่วยงานในสังกัดกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจรดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยสั่งการให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตราเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัยบุคคลพ้นโทษและเยาวชนกลุ่มเสี่ยงโดยปรากฏกายให้เห็นเด่นชัดตามสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงหรือสถานที่จัดงานรื่นเริง สถานบันเทิง ชุมชน สวนสาธารณะและพื้นที่ลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ อาทิตู้กดเงินสด (ATM) ร้านสะดวกซื้อ และสถานีบริการเชื้อเพลิง เป็นต้น
พล.ต.ท.เชษฐา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในวันลอยกระทงเพื่อสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย คอยให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวทุกนายต้องให้บริการด้วยความจริงใจ สุภาพทั้งกิริยาและวาจา ให้สมดั่งคติพจน์ของตำรวจท่องเที่ยวที่ว่า "TOURIST POLICE 1155 YOUR FIRST FIREND "
พล.ต.ท.เชษฐา กล่าวด้วยว่า สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยงานประเพณีลอยกระทงของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 3 ห้าม 3 ไม่ 3 ควร ดังนี้ 3 ห้าม 1.ห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด โคมลอยในลักษณะสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรืออาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งมีโทษฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท 2.ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร มีโทษทั้งจำทั้งปรับ 3.ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะขับขี่หรือโดยสารหรือบนรถ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตรา 42 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 3 ไม่คือ 1. ไม่ควรแต่งกายล่อแหลมต่อมิจฉาชีพ 2.ไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเที่ยวงานตามลำพัง 3.ไม่ควรไปเที่ยวในสถานอโคจรมั่วสุม 3ควรคือ 1.ควรระมัดระวังการใช้บริการโป๊ะ ท่าเทียบเรือโดยเฉพาะในที่ที่มีคนจำนวนมาก 2.ควรกำชับบุตรหลานให้ระมัดระวังการถูกล่อลวงไปในทางมิชอบ 3.ควรรื่นเริงบนพื้นฐานของการสืบสานประเพณีไทย สิ่งสำคัญคือหากประชาชนและนักท่องเที่ยวพบเห็นเหตุสิ่งของหรือบุคคลต้องสงสัยที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายและเป็นอันตรายสามารถแจ้งข้อมูลมายังสายต่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ภายหลังจากปล่อยแถวเรียบร้อยแล้วทาง พล.ต.ท. เชษฐา และคณะได้เดินทักทายพร้อมแจ้งเอกสารประชาสัมพันธ์ของตำรวจท่องเที่ยว เช่น พัด พวงกุญแจ เอกสารแผ่นพับ ฯลฯ และได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง บอกว่า รู้สึกประทับใจมากที่จะได้เข้าร่วมงานเทศกาลลอยกระทงของประเทศไทย และรู้สึกดีใจที่ในช่วงเทศกาลจะมีตำรวจท่องเที่ยวออกมาดูแล สร้างความเชื่อมั่นว่าจะสามารถเที่ยวได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย
จากนั้น พล.ต.ท.เชษฐา ได้ลงเรือของตำรวจท่องเที่ยว พร้อมสวมเสื้อชูชีพ เพื่อตรวจความปลอดภัยทางน้ำ ก่อนจะขึ้นท่าเทียบเรือไอคอนสยาม ตรวจจุดสำคัญในการลอยกระทง ทั้งนี้ได้เดินตรวจความเรียบร้อยในไอคอนสยาม รวมถึงรับฟังการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่จะมาร่วมงานลอยกระทงโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง