MGR Online - ผบช.น.มอบนโยบายตำรวจในสังกัด ทั้งงานด้านป้องกันปราบปราม สืบสวน สอบสวน จราจร ปราบยาเสพติด เน้นจงรักภักดี ห้ามเรียกรับผลประโยชน์ ยุ่งยานรก เตือนหากไม่ปลดทุกข์ให้ ปชช.ระวังปัญหาย้อนกลับหาตัวเอง
วันนี้ (16 ต.ค.) เวลา 09.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เป็นประธานการประชุมมอบนโยบาย โดยมีข้าราชการตำรวจในสังกัด บช.น. ตั้งแต่รอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 ผบก.จร. ผบก.สส.บช.น. ผบก.สปพ.(191) ผบก.อคฝ. ผบก.อก.บช.น. และ ผกก.ทั้ง 88 สน.รวมทั้งสิ้น 236 นาย เข้าร่วม
พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า มีนโยบายสำคัญที่มุ่งเน้น คือ พิทักษ์ ปกป้อง และเทิดพระเกียรติ เพื่อความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ การถวายความปลอดภัยในเส้นทางเสด็จฯ ทำความเข้าใจกับประชาชนที่ใช้เส้นทาง ให้กระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ส่วนนโยบายทั่วไปด้านความมั่นคงให้บังคับใช้กฎหมาย 100% เพื่อความสงบสุขของสังคม และต้องมีข้อมูลแหล่งที่พัก เช่น ร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์ ที่อาจนำมาประกอบวัตถุระเบิด
ด้านงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ยึดหลักบังคับใช้กฎหมาย เน้นการป้องกัน เข้าหาประชาชน การใช้กำลังให้เหมาะสม และภาพพจน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) การรับแจ้งเหตุและการระงับเหตุโดยเร็ว พร้อมเน้นการจับกุมคดีอาชญากรรมที่รัฐเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากผลการจับกุมของ บช.น.ในรอบ 11 เดือนที่ผ่านมาติดลบ ส่วนด้านการอำนวยความยุติธรรม เช่น พนักงานสอบสวนต้องกล้าบังคับใช้กฎหมาย และหาช่องทางกฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย คดีที่รัฐบาลหรือสังคมให้ความสนใจ และคดีค้ามนุษย์ หัวหน้าหน่วยต้องกำกับดูแล ให้ความสำคัญกับการสอบสวน รอบคอบในการรวบรวมพยานหลักฐาน
ด้านงานสืบสวนต้องเป็นมืออาชีพ ให้ความสำคัญกับทุกคดี การสืบสวนผู้ต้องหา แสวงหาพยานหลักฐานให้ครบถ้วน สนับสนุนฝ่ายสอบสวน ติดตามหมายจับค้างเก่า ด้านงานจราจร “การจราจรคล่องตัว ลดอุบัติเหตุ” ให้ บก.จร.เป็นเจ้าภาพหลักแก้ไขปัญหาจราจรในภาพรวม เน้นภารกิจอำนวยความสะดวกการจราจร ไม่เน้นยอดการจับกุม มีการจัดการจราจร จุดวิกฤต เช่น กรณีน้ำท่วม ไฟไหม้ รถชน การตั้งจุดกวดขันจับกุมยานพาหนะที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ (PM 2.5) การตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ของ บก.จร.การกวดขันวินัยจราจร และห้ามเรียกรับผลประโยชน์ หรือกลั่นแกล้งจับกุมโดยเด็ดขาด
ด้านการปราบปรามยาเสพติด ให้ใช้ยุทธวิธีทุกรูปแบบภายใต้กฎหมาย ตำรวจต้องไม่เข้าไปพัวพันยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หากตรวจพบให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและคดีอาญาอย่างเด็ดขาด โดยหัวหน้าสถานีหรือผู้บังคับบัญชาใกล้ชิด ต้องสอดส่องดูแลอย่างจริงจัง
สำหรับนโยบายเฉพาะที่ทาง ตร.เน้นย้ำ ประกอบด้วย 1. การปราบปรามข่าวปลอมบิดเบือน/แพร่ระบาด/ชี้นำ (Fake News) มอบหมายให้ บก.สส.บช.น. เป็นเจ้าภาพหลัก 2. การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ ฝุ่นละออง PM 2.5 มอบหมายให้ บก.น.1-9 เป็นเจ้าภาพหลัก โดยให้ บก.จร.และ บก.อคฝ.เป็นหน่วยสนับสนุน 3. การปราบปรามค้ามนุษย์ เงินกู้นอกระบบ ผู้มีอิทธิพล บ่อนการพนัน 4. ปราบปรามอาชญากรรมโดยใช้สื่อออนไลน์ เช่น การค้าอาวุธปืน หรือยาเสพติดทางออนไลน์ 5. ปัญหาเด็กแว้นในพื้นที่จะต้องหมดไปเป็นศูนย์ 6. ปัญหานักเรียนทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบัน 7. สถานบริการในพื้นที่ จะต้องไม่มีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่มีอาวุธปืนและยาเสพติด
ทั้งนี้ ทาง ผบช.น.ได้ให้หลักคิดการทำงานว่า รับผิดชอบงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด พึงระลึกเสมอว่าทุกข์เล็กๆ ของประชาชน หากไม่ได้รับการแก้ไข ทุกข์นั้นยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วปัญหานั้นจะย้อนกลับมาหาตำรวจเอง