xs
xsm
sm
md
lg

คุกไม่คุก? ศาลชี้ขาดวันนี้ “ปึ้ง” หักระเบียบ กต.คืนพาสปอร์ตให้ “แม้ว”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
“สุรพงษ์” ลุ้นระทึก ศาลฎีกาฯ อ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์วันนี้ ฐานใช้อำนาจมิชอบขณะเป็น รมว.ต่างประเทศ ออกพาสปอร์ตให้ “ทักษิณ” จำเลยหนีคำพิพากษาและหลบหนีหมายจับหลายคดี หลังศาลฯ เคยพิพากษาเมื่อปี 61 ให้จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา

วันนี้ (10ต.ค.) เวลา 11.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ คดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีออกหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นจำเลยหลบหนีคำพิพากษาและหมายจับ

คดีดังกล่าว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเมื่อต้นเดือน ก.พ. 2560 ชี้มูลความผิดนายสุรพงษ์กรณีออกหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกออกหมายจับในคดีร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย และคดีทุจริตหลายคดี ขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ข้อ 21 (2) (3) (4)

คดีนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2561 เห็นว่าจำเลยในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกระทำการสนับสนุนช่วยเหลือนายทักษิณซึ่งเป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และหลบหนีหมายจับในคดีข้อหาความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ สามารถเดินทางในต่างประเทศได้โดยสะดวก อยู่ในต่างประเทศโดยไม่ผิดกฎหมาย และรัฐบาลไทยไม่อาจขอให้รัฐบาลประเทศนั้นขับออกจากประเทศหรือส่งผู้ร้ายข้ามแดน อันเนื่องจากเหตุที่ไม่มีหนังสือเดินทางได้

ส่งผลให้กระบวนการยุติธรรมและคำพิพากษาของศาลยุติธรรมไทยอ่อนแอและไม่มีสภาพบังคับตามลำดับ นอกจากนี้ ยังส่อให้เห็นถึงความไม่เป็นเอกภาพของแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐของไทยในสายตาประชาคมโลก ซึ่งกระทบกระเทือนต่อชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศ เป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับนายทักษิณ อันเป็นการกระทำโดยมิชอบและโดยทุจริต

องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 2 ปี พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าการกระทำความผิดของจำเลยมีเจตนาช่วยเหลือผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลซึ่งหลบหนีให้สามารถเดินทางในต่างประเทศได้สะดวก และเป็นผลบั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย จึงไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ ทั้งนี้ ศาลฎีกาฯ ได้อนุญาตปล่อยชั่วคราวนายสุรพงษ์ เพื่อต่อสู้คดีในชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ มีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล โดยหลักทรัพย์เดิมวางไว้ 3 ล้านบาท เพิ่มเงินสดอีก 2 ล้านบาท รวมเป็น 5 ล้านบาท

สำหรับการอ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ในวันนี้ หากศาลฯ มีคำพิพากษายืน นายสุรพงษ์จะต้องถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำทันที




กำลังโหลดความคิดเห็น