(Police Focus)
ตำรวจ บก.สปพ.(191) ยังโชว์ผลงานประจักษ์ต่อเนื่องล่าสุดทีม สายตรวจ 191 ตามสะกดรอย 4 ผู้ต้องหารับจ้างพม่า 1 ล้านบาท ขนไอซ์จากภาคเหนือสามารถจับกุม พร้อมตรวจยึดของกลางได้มากกว่า 502 กก.มูลค่า 400 ล้านบาท ร่วมกับ บก.สส.บช.น.โดยงานนี้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เดินทางมา บช.น.นำทีมแถลงข่าวต่อหน้าทัพสื่อมวลชล ก่อนตกรางวัลด้วยซองขาวให้แก่ชุดจับกุม
หนึ่งคีย์แมนสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) ผู้สร้างทีมงานขึ้นมาโดยอาศัยความขยัน อดทน และประสบการณ์ ปิดบัญชีนักค้ายาเสพติดมานักต่อนัก ตามฉบับหน้าที่ของตำรวจ 191 ป้องปรามเหตุอาชญากรรม ซึ่งมองถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นหลัก โดยเฉพาะตัดเส้นทางยาเสพติดที่ส่งผลปัญหาครอบครัวบ่อเกิด บ้านแตกสาแหรกขาด
พ.ต.อ.ปิยรัช บอกว่า คดีจับไอซ์ดังกล่าวถ้าถามว่ายากหรือไม่ คือเราต้องใช้เวลาและความทุ่มเท เคสนี้เราเกาะติดมาตั้งแต่เดือนมีนาคม รวมระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ผมมองว่าเป็นเคสใหญ่เพราะมีของกลางจำนวนมาก ความสำเร็จเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย เริ่มต้นจากคนที่แจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์วิทยุ 191 ฉะนั้นเขาคือส่วนหนึ่งแล้วสำหรับการทำหน้าที่ พลเมืองดี
ทีมงานได้ไปสะกดรอยโดยเฝ้าระวังรถต้องสงสัย เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงเข้าสู่เมืองหลวง มีปลายทางอยู่ที่กรุงเทพฯผมรู้สึกความภาคภูมิใจ แต่มองว่าเป็นเรื่องของทีมงานมากกว่า รวมถึงนโยบายของผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ.(191) พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบก.สปพ.(191) และ พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รอง ผบก.สปพ.(191)
"ที่ผ่านมามีการสกัดกั้นยาเสพติดที่จะลงไปสู่ภาคใต้ รวมทั้งรอบปริมณฑลเราก็สามารถบล็อกไว้ได้ บูรณาการระหว่าง ปปส. กับตำรวจ 191 โดยการนำของผู้การ 191 ปูพรมตรวจค้นทั้งหมด 19 จุด ตามชุมชนที่มีความเสี่ยง ผลการปฏิบัติสามารถยึดของกลางยาเสพติด จับกุมผู้ค้าระดับกลาง ระดับปลีก และจนไปถึงผู้เสพ"
ผกก.สายตรวจ 191 กล่าวลักษณะหน้างานว่า มีตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุเป็นเรื่องการป้องกันเหตุ หรือเหตุเกิดแล้วก็ป้องกันอีกเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำ โดยวิเคราะห์กับนาฬิกาอาชญากรรม ประสานข้อมูลกับ กก.ศูนย์รวมข่าว 191 หรือศูนย์วิทยุผ่านฟ้า คอยส่งรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ โดยนำเอานวัตกรรม Google Maps แล้วแจ้งสายตรวจให้ ว.4 แต่ละเขตมีจุดตรวจตู้แดงไว้กำกับ QR Code เพื่อป้องปรามและเป็นการโชว์ Off Force
เป็นงานที่ท้าทายมีภารกิจเยอะแยะมากมาย เราต้องมีความพร้อมในแต่ละสถานการณ์ เพราะหน่วยเราคือ ที่พึ่งแรก และเป็นที่รักของประชาชน ยามเดือดร้อนก็จะนึกถึงเบอร์ 191 สายตรวจไปถึงที่เกิดเหตุได้รวดเร็ว ก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ดีมีประสิทธิภาพ ผมให้ความสำคัญเรื่องการสร้างทีมงาน และขวัญกำลังใจของตัวผู้ปฏิบัติ คือสิ่งแรกที่ผมดำเนินการตั้งแต่มารับตำแหน่ง
ผมมาพัฒนาและต่อยอดจากยุค ผู้การสำราญ และ รองสมบูรณ์ ที่เคยเป็น ผกก.สายตรวจ วางรากฐานไว้ดีมากผมจึงเอาวิชาความรู้จากพี่ๆ มาใช้ หลักการของผมคือ ทำงานเป็นทีม รวมจิตรวมใจและนึกถึงว่าทุกสิ่งที่เราทำสังคมจะได้อะไร สุดท้ายประโยชน์ก็ได้ตกไปสู่ประชาชน ผมพยายามจะไม่ให้ยาเสพติดลงไปสู่ชุมชน เพราะอาจเป็นปัญหาครอบครัวถ้าใครไม่เคยเจอคงไม่รู้ถึงผลกระทบ
“ผมภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือประชาชน เป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และได้แต่งเครื่องแบบเป็นข้าราชการตำรวจ คำว่า "ข้า" คือ คนที่ทำงาน "ราช" คือ พระราชา และ "การ" คือ การทำงาน แปลว่า “ผู้ที่ทำงานให้กับพระราชา” รวมถึงการได้ถ่ายทอดในสิ่งที่เราคิดว่า จะเป็นผลดีต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งการคิดดี พูดดี ทำดี รวมถึงโครงการจิตอาสาตามแนวพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
ผกก.เปิ้ล นรต.รุ่น 55 เคยรับราชการเป็น รอง สว.(สอบสวน) สน.พระโขนง รอง สว.งานสายตรวจ 2 กก.1 บก.สปพ.(191) นว.(สบ 2) ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ผู้ช่วย นว.(สบ 2) ผู้ช่วย ผบ.ตร. สว.ส.รฟ.ศิลาอาสน์ กก.2 บก.รฟ. รอง ผกก.ปพ.บก.ป. และ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) โดยฝากถึงประชาชนว่า ตำรวจสายตรวจ 191 มีจิตใจที่จะรุกรบเข้าไประงับยับยั้งป้องปรามเหตุ ขอให้ประชาชนช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตา ถ้ามีเบาะแสก็แจ้งมาที่สายด่วน 191 หรือทางเพจเฟซบุ๊ก “สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191” ก็อยากให้ทุกคนร่วมมือกัน