รวบมิจฉาชีพทำทองคำปลอมเร่จำนำร้านทองย่านปทุมได้เงินร่วมแสน

สภ.เมืองปทุมธานี จับชายวัย 57 ปีนำสร้อยคอทองคำปลอมไปจำนำกับร้านทองต่าง ๆ ภายในจังหวัดปทุมธานี ของกลางสร้อยคอทองคำรูปพรรณปลอมหนัก 5 บาท 1 เส้น เงินสด 90,000 บาท

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2562 พ.ต.ท.ขจร ฉัตรแก้วมณี รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งจากทางร้านทองสุวรรณพัฒนา 3 ถนนปทุมธานีสายใน ตำบลบางขะแยง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ว่ามีชายนำสร้อยคอทองคำรูปพรรณปลอมมาจำนำ หลังรับแจ้งนำกำลังรุดตรวจสอบที่ร้านทอง ได้จับกุมนายธนากรณ์ บรรณาธิกร อายุ 57 ปี ภูมิลำเนาเลขที่ 49 ถนนจิตต์สุวรรณ หมู่ที่ 3 ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยของกลางสร้อยคอทองคำรูปพรรณปลอม น้ำหนัก 5 บาท 1 เส้น เงินสด 90,000 บาท และกระเป๋าหนัง 1 ใบ

หลังจากที่นายธนากรณ์ บรรณาธิกร ได้นำสร้อยคอทองคำรูปพรรณปลอมมาจำนำ ขณะเจ้าของร้านยังไม่ได้ตรวจสอบละเอียด จึงได้มอบเงินให้นายธนากรณ์ ไป 90,000 บาท ต่อมาเจ้าของร้านไหาตัวทัน โดยเห็นชื่อของนายธนากรณ์ โพสต์เตือนภัยในไลน์กลุ่มร้านทอง จึงได้ล๊อกประตูหน้าร้านไม่ให้นายธนากรณ์ หลบหนีได้ ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ควบคุมตัว ที่ สภ.เมืองปทุมธานี ขณะที่พนักงานสอบสวนนายธนากรณ์ บรรณาธิกร ผู้ต้องหา ได้มีเจ้าของร้านทองอีก 2 ร้านภายในตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานี นำทองรูปพรรณ ทั้งแหวนและสร้อยทองนำมาให้พนักงานสอบสวน เพื่อเป็นหลักฐาน และมีแหวนทองที่ได้รับจำนำมาจากผู้ต้องหา พบว่าภายในเป็นเงินหลังจากที่ขูดด้วยตะไบแล้วถึงทราบว่าเป็นทองปลอม

จากการสอบถาม นายธนากรณ์ บรรณาธิกร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้นำทองคำรูปพรรณปลอมไปจำนำที่ร้านทองจริง พร้อมยกมือไหว้ขอโทษที่ทำลงไป เนื่องจากติดการพนัน ที่ผ่านมาได้นำสร้อยคอทองคำรูปพรรณและแหวนทองไปจำนำกับร้านทองต่าง ๆ ภายในจังหวัดปทุมธานีหลายร้าน รู้ว่าที่ทำแบบนี้ต้องโดนจับเข้าสักวันหนึ่ง ซึ่งได้ทำใจไว้แล้ว เนื่องจากเงินที่ได้มาได้ใช้ไปหมดแล้ว ไม่สามารถนำเงินมาใช่คืนได้ ผมก็ต้องยอมติดคุกตามกฎหมาย และได้ยอมรับอีกว่าเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ได้นำสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 3 บาท 1 เส้น แหวนทอง น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 2 วง ไปจำนำที่ร้านทองสุวรรณพัฒนา 3 ภายในตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานี และเดือนกรกฎาคม 2562 ได้นำแหวนทองน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 วง ไปจำนำที่ร้านทองบางกอกโกลด์ ภายในห้างบิ๊กซี สาขาปทุมธานี

ด้านนายสุทธิศักดิ์ รัตโนภาส เจ้าของร้านทองรัตนสุวรรณ กล่าวว่า ผมไม่เคยรู้จักเขามาก่อน เนื่องจากเขาจะมีอัธยาศัยดี พูดคุยกันรู้เรื่อง เคยเอาแหวนเข้ามาจำนำไว้ 1 ครั้ง ซึ่งผมก็แอะใจแล้วเนื่องจากยี่ห้อทองแปลกไม่เคยเจอมาก่อน แต่เขาคุยกับเราดีจึงได้รับไว้ จากนั้นเอาเงินมาถ่ายออกไป แล้วก็นำเอาแหวนมาจำนำอีก 2 วง ได้รับจำนำไว้ในราคา 17,000 บาท และ 18,000 บาท เขาก็มีน้ำใจซื้อผลไม้มาฝากผมด้วย ที่ผมมาทราบว่าเป็นทองปลอมเนื่องจากมาทราบชื่อจากทางไลน์กลุ่มร้านทองภายในจังหวัดปทุมธานี ที่เตือนภัยถึงชื่อบุคคลนี้มานำทองปลอมมาจำนำให้ร้านทองต่าง ๆ เฝ้าระวังไว้ ทั้งนี้คนร้ายมีพฤติกรรมเหมือนคคนปกติทุกอย่าง มีอัธยาศัยดี นำทองที่มีน้ำหนักตรงกับทองจริง เมื่อเช็คเบื้องต้นพบว่าเป็นของจริง แต่ถ้าขูดลึก ๆ แล้วจะพบผิดปกติ คือด้านในจะเป็นเงิน ถือว่าเป็นจุดอ่อนของทางร้านทองที่รับจำนำทองไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปทองที่รับจำนำมาได้ จึงเป็นช่องทางให้คนร้ายและกลุ่มมิจฉาชีพใช้โอกาสนี้ในการฉ้อโกง

ด้าน พ.ต.ท.ขจร ฉัตรแก้วมณี รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี หลังรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมด้วยของกลาง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปทำประวัติไว้ ก็อยากฝากเตือนร้านทองทั่วไป ให้ตรวจสอบดูให้ดีก่อน ซึ่งทองปลอมที่ผู้ก่อเหตุนำมาก่อเหตุนั้น ถ้ามองทั่วไปก็ปกติ เช่นน้ำหนักก็ปกติ ลายทองก็ปกติก็เหมือนทองทั่วไป ซึ่งร้านทองถ้าให้มั่นใจไม่ใช่ฝนอย่างเดียวแล้วก็จะรู้เลยว่าทองปลอมหรือไม่ เพราะทุกวันนี้คนร้ายได้พัฒนาวิธีต่างๆ เพื่อมาหลอกกับทางร้านทอง ซึ่งทางร้านทองเองก็ต้องมีกรรมวิธีในการตรวจสอบให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันการก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา "ฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น" ก่อนนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.