รถพ่วง 18ล้อซิ่งข้ามสะพานบนถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก) ขาลงอัดท้ายรถกระบะพังเสียหาย 5 คัน เจ็บสาหัส 4 ราย โชว์เฟอร์อ้างเบรกไม่ทัน
วันนี้( 14 ก.ย.)เมื่อเวลา 12.00 น.ร.ต.ท.กรกฎ ศรนิกร รองสารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคูบางหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ ชนท้ายรถกระบะและรถพ่วงจำนวน 5 คันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก)ทางหลวงหมายเลข 9 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 63 + 300 หมู่ที่ 1 ตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานรถกู้ชีพและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและอุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู กำลังใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง เพื่อนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 รายออกมาจาก รถกระบะยี่ห้อ Toyota Vigo 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฆข-8942 กรุงเทพฯ นำส่งโรงพยาบาลปทุมธานี หลังจากมีรถพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 70-8707 เชียงราย ลูกพ่วง 70-8719 เชียงราย ที่พุ่งชนท้าย รถยนต์กระบะ ยี่ห้อเชฟ สีแดง หมายเลขทะเบียน บย-1066 ชัยภูมิ สภาพพังยับเยิน,ใกล้กันพบรถกระบะ เชฟ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ฒฏ-5309 กรุงเทพ สภาพด้านหน้าด้านหลังพังเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย เป็นชาย 2 ราย และหญิง 2 ราย โดยมีนายสุทัศ มหาไม้ อายุ 41 ปี ชาวชัยภูมิ เป็นคนขับรถ และยังมีรถพ่วง 18 ล้อ ยี่ Hino หมายเลขทะเบียน 89- 4393 นครปฐม ลูกพ่วง หมายเลขทะเบียน 89-4394 นครปฐม ด้านหลังได้รับความเสียหายเช่นกัน
นายสุทัศ มหาไม้ (เสื้อชมพู)อายุ 41 ปีชาวชัยภูมิ เป็นคนขับรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟ สีแดง ให้การว่าตนเองขับรถมาจากจังหวัดชัยภูมิและกำลังมุ่งหน้าไปอำเภอบางบัวทอง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถของตนเองได้ถูกรถกระบะชนจากด้านหลัง จากรถพ่วง 18 ล้อชนท้ายติดต่อกันมาจนรถตนเองไปชนกับรถกระบะวีโก้และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในรถดังกล่าวส่วนลดตนเองมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน
นายสกล ธานี อายุ 39 ปี (เสื้อสีดำ) คนขับรถพ่วง ให้การว่า ตนเองมาจากอำเภอสามโคก และกำลังจะไปมหาชัย และมาถึงที่เกิดเหตุ เป็นช่วงลงสะพาน เห็นคันหน้าจอดอยู่ แต่ตนเบรกแล้วแต่เบรกไม่อยู่ จึงพุ่งชนท้ายรถกระบะ และชนรถทั้งหมดอีก 4 คัน จนได้รับความเสียหาย
ส่วนทาง ร.ต.ท.กรกฎ ศรนิกร รองสารวัตรเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคูบางหลวง พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ ในที่เกิดเหตุ และบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญผู้ขับขี่ทั้งหมด ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งโรงพยาบาลปทุมธานี นอกจากนี้ถนนดังกล่าว ได้มีรถติดกันเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานให้รถยก มาเคลื่อนย้ายรถในที่เกิดเหตุออกจากพื้นผิวการจราจร ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถวิ่งได้ตามปกติ