(Police Focus)
ปิดฉากเป็นที่เรียบร้อยกรณีหนุ่มชาวชุมพรวัย 44 ปี ก่อเหตุบุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ ร้านทองออโรร่าภายในห้างตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. กวาดทองรูปพรรณไปกว่า 155 บาท และเงินสด 4 หมื่นบาท ตำรวจ บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.7 และชุดสืบสวน สน.บางพลัด ระดมทีมไล่เช็คกล้องจนสามารถจับกุม นายอัศวิน บุญเมืองหรือ “เอก หัวลำโพง” ได้เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา
คดีไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย งานนี้ตำรวจเกือบเฉียดลูกปืน ขณะชะโงกหัวไปดูคนร้ายที่หลบหนีอยู่ห้องข้างๆ ดันลั่นไกสวนมา 1 นัด สุดท้ายตำรวจล้อมจับได้สำเร็จคาโรงแรมมอลิซ โฮเต็ล ย่านงามวงศ์วาน ขอชื่นชมผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว รอง ผบก.น.7 (รับผิดชอบงานสืบสวน) พร้อมเพื่อนสนิทและหัวเรือคนสำคัญอย่าง พ.ต.อ.ปัญญา กุลไทย ผกก.สส.บก.น.7 ลงควบคุมตั้งแต่ต้นจนจบงาน
พ.ต.อ.ปัญญาเล่าว่า ตอนไปดูที่เกิดเหตุถามว่ายากไหมก็ยาก เราเริ่มต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เห็นใบหน้าชัดเจน ในวันแรกปรากฏว่าช่วงเวลากลางคืนกล้องดูยาก เห็นแว้บๆ บริเวณหน้าเมเจอร์ ปิ่นเกล้า แล้วก็ย้อนกลับมาดูใหม่ว่าไล่ถูกคันหรือเปล่า เพราะบางจังหวะมีรถเมล์วิงผ่านคืนนั้นไล่กันถึงเช้า พอเลยไปอีกคนร้ายหายไปตรงนั้นเป็นสามแยก ไม่รู้ไปทางไหน จึงกลับมาประชุมแล้วไล่กันใหม่
เราสะกดรอยติดตามตั้งแต่จุดเกิดเหตุ หัวลำโพง ซอยเพชรบุรี 10 และโรงแรมมอลิซ โฮเต็ล เมื่อไปถึงตนสั่งลูกน้องปูพรม พบ น.ส.พวงพะยอม มะรุลี อายุ 31 ปี แฟนสาวของผู้ต้องหาเดินลงมา จึงนำตัวมาซักถามว่าอยู่กันกี่คน พ.ต.อ.สุวัฒน์นำกำลังกว่า 20 นาย พร้อมอรินทราช 26 บุกขึ้นไปถึงหน้าห้อง 1402 ชั้น 4 แล้วให้แฟนสาวเคาะประตูไม่มีใครมาเปิด ใช้กุญแจสำรองเสียบเข้าไปพบในห้องมีอยู่ 4 คน
“ผู้ต้องหาและเพื่อนที่หลบหนีคดีได้ปีนหนีไปห้อง 1403 จังหวะตำรวจชะโงกหัว คนร้ายยิงสวนมา 1 นัด โชคดีเราปลอดภัย สามารถนำกำลังล้อมจับได้ 6 คน นำตัวไปแยกดำเนินคดีสอบ เอก หัวลำโพง เคยมีคดียาเสพติด สภ.ปากน้ำชุมพร ข้อหาจำหน่ายร้อยกว่าเม็ด”
ผกก.สส.บก.น.7 บอกความรู้สึกว่า ตอนแรกคิดว่ายากมากคดีปล้นทอง เกิดขึ้นกับร้านออโรร่าบ่อยสุด แต่ละคดีที่ผ่านมาไม่มีอันไหนง่ายเช่นเดียวกับคดีล่าสุด ทีมงานช่วยกันทำงานเร็วและขยันเลยปิดคดีได้ เราแทบไม่ได้นอนกันเลย 4 วันเต็มต้องนอนที่ทำงาน เหตุที่เลือกปล้นร้านทองออโรร่าส่วนใหญ่สาเหตุมาจาก 1. ไม่มีกรงเหล็กเหมือนร้านทองทั่วไป 2. ทำเลที่ตั้งใกล้ทางออกซึ่งห่างจากร้านไม่เกิน 100 ม.
เหมือนตอนอยู่ สน.โชคชัย ทำคดีปล้นร้านทองออโรร่าก็ติดทางออกเช่นกัน ก็ภูมิใจเพราะทีมงานเราช่วยกันทำงานทุกคน สามารถตามทองคืนได้ 2 ใน 3 ของที่โดนปล้นไปและอยู่ระหว่างตามส่วนที่เหลือ เราทำงานกันเต็มที่ทุกคนอยากให้งานออกมาสำเร็จ นอกจากนี้ ขอฝากไปถึงร้านทองให้สังเกตพฤติการณ์คนร้าย หากสงสัยให้แจ้ง รปภ.หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ
คดีล่าสุดถ้าว่าถามเราได้พิสูจน์อะไรบ้างตนมองว่า สิ่งแรกเกิดความสามารถคดีในหน่วยงานของเรา ทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำงานงานชัดเจนโดยร่วมกับ บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.7 ชุดสืบสวน สน.บางพลัด และ บก.ภ.จว.นนทบุรี ที่สำคัญเราอย่าประเมินคนร้ายต่ำเกินไป ตอนเกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนปลอมเราไม่คิดว่ามีของจริง ตนกำชับลูกน้องเรื่องนี้เสมอว่าอย่าประมาทเด็ดขาด
“ผมมาใหม่ๆ ถามว่าใครทำอะไรเป็นบ้าง ก็มาสอนการเดินกล้อง สะกดรอย และเรื่องอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้ ผมมาปรับพื้นฐานลูกน้องก่อน 2 อาทิตย์ ช่วงเย็นของทุกวันจะมาสอนเอง เป็นคนจับลูกน้องวางงานตามความสามารถของแต่ละคน โดยเน้นย้ำว่าทุกคนต้องเดินกล้องเป็น ไม่มีการรอคนอื่นสั่งการแล้วต้องทำได้ทันที ส่วนเรื่องเดินอากาศผมทำเองทั้งหมดแล้วจะดูแววเด็กรุ่นใหม่”
สำหรับ พ.ต.อ.ปัญญา หรือ ผกก.ไก่ อายุ 43 ปี ชาวเพชรบุรี พัวพันอยู่ในวงการนักสืบมานาน จบ นรต.รุ่น 52 เริ่มรับราชการ รอง สวป.สภ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี รอง สว.สส.บก.น.1 รอง สว.งานสายตรวจ 1 บก.สปพ.(191) สว.กก.3 บก.สส.บช.น. สว.สส.สน.บางขุนเทียน รอง ผกก.ป.สน.โชคชัย รอง ผกก.สส.สน.พหลโยธิน รอง ผกก.สส.สภ.โคกสำโรง รอง ผกก.สส.บก.น.4 และ ผกก.สส.บก.น.7
ครั้งอยู่ บก.สส.บช.น.ได้มีโอกาสทำงานร่วมงานกับ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฏิบัติราชการ สตม.และนักสืบรุ่นอาจารย์อย่าง พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น.ซึมซับวิธีการทำงานและวิชาความรู้มากมาย ได้มีส่วนร่วมทำคดีปล้นรถขนเงินย่านประเวศ ซึ่งเป็นคดีที่เขาประทับใจมาก เนื่องจากเข้ารับตำแหน่งตอนคดีเกิดขึ้นได้ 1 เดือนแล้ว โดยใช้เวลาถึง 3 ปีกว่าจะจับกุมคนร้ายได้
