คุมแก๊งบึ้มป่วนกรุงฝากขังศาลอาญา จัดคอมมานโดคุ้มกันแน่นหนา

MGR online - กองปราบคุมตัวทีมบึ้มป่วนกรุง ฝากขังศาลอาญา โดยจัดกำลังอาวุธครบมือคุ้มกันอย่างหนาแน่น พร้อมเรียกประชุมคลี่คลายคดี กำหนดประเด็นสอบเพิ่ม ก่อนสรุปสำนวนส่งฟ้อง

วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่เกี่ยวข้อง ทั้งจาก บช.น.และ ภ.1 เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ที่จะต้องทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมในบางประเด็น เพื่อให้สำนวนมีความแน่นหนาและรัดกุมมากยิ่งขึ้น ก่อนจะมีการเรียกพนักงานสอบสวนเหล่านี้มาประชุมตรวจความพร้อมของสำนวนใหม่อีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาอีกครั้งว่าสำนวนคดีดังกล่าวทั้งหมดพร้อมที่จะทำการส่งฟ้องหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันเดียวกัน ทางพนักงานสอบสวน บก.ป. ได้ทำการเบิกตัวนายมูฮัมมัดอิลฮัม สะอิ หรือ นายแบลี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในคดีดังกล่าวออกจากห้องคุมขังกองปราบฯ เพื่อนำตัวไปทำการส่งฝากขังยังศาลอาญา ถ.รัชดา โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.สนับสนุน บก.ป. คุ้มกันอย่างแน่นหนา

ต่อมาเวลา 15.00 น. พนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 459/2562 ควบคุมตัว นายมูฮัมมัดอิลฮัม สะอิ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีระเบิดกรุงเทพฯ และปริมณฑล หลายจุดเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2562 มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 3-14 ก.ย. นี้ เนื่องจากต้องสอบพยานบุคคลอีกประมาณ 20 ปาก, รอผลตรวจสอบประวัติลายพิมพ์นิ้วมือ, ตรวจพิสูจน์ของกลางและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2562 เวลาประมาณ 8.42 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณป้ายหน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จ.นนทบุรี เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย จากการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานทราบว่าเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2562 เวลาประมาณ 14.00 น. ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์นำวัตถุระเบิดมาส่งมอบให้กับนายอุสมัน ลาเตะ และนายฮาซัน อาแว บริเวณป้ายรถเมล์หน้าห้างแมคโคร รังสิต เพื่อให้นำไปวางระเบิดที่เกิดเหตุ ต่อมาวันที่ 2 ส.ค. 2562 ระเบิดดังกล่าวได้เกิดระเบิดอย่างรุนแรง จากนั้นวันที่ 2 ก.ย. 2562 เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาที่บริเวณศาลจังหวัดนราธิวาส โดยผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และนำตัวส่งมอบให้พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามดำเนินการตามกฎหมาย

ซึ่งได้แจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร, ร่วมกันทำและมีวัตถุระเบิดฯ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นและทรัพย์ผู้อื่นเสียหาย โดยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากมีลักษณะกระทำการเป็นกระบวนการ มีผู้ร่วมกระทำความผิดเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ก่อให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวในความปลอดภัย เกรงว่าหากปล่อยตัวผู้ต้องหาไปแล้วจะหลบหนีหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวน และได้โปรดมีคำสั่งให้คุมขังผู้ต้องหานี้ไว้ที่เรือนจำชั่วคราวแขวงทุ่งสองห้อง ซึ่งเป็นเรือนจำที่ควบคุมผู้ต้องขังคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐและคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นเรือนจำที่อยู่ในสังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขัง

ทั้งนี้ไม่มีญาติยื่นประกันตัวผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมตัวไปยังเรือนจำชั่วคราวแขวงทุ่งสองห้อง