xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ปมร้อน ถวายสัตย์ฯ ขัด รธน. ฝ่ายค้านลุยซักฟอก “บิ๊กตู่”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2562 ตอน ปมร้อน ถวายสัตย์ฯ ขัด รธน. ฝ่ายค้านลุยซักฟอก “บิ๊กตู่”



ศึกอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ที่จะซักฟอก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลรอบนี้ กับเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญกำหนด เป็นประเด็นหลัก และมีประเด็นพ่วงอีกสองปมย่อย คือเรื่องที่มาและการใช้เงินของรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน

ดูแล้ว ต้องจบกันที่สภาฯแน่ เพราะท่าทีฝ่ายค้านแสดงว่าไม่ยอมปล่อยโอกาสทองนี้หลุดมือไปแบบไม่ได้อะไร ขนาดสถานการณ์ที่มาตาม ได้บอกชัดเจน เรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณ ไม่เป็นปัญหา ก็ตาม

แต่ถึงอย่างไร ดีกรีความรุนแรงจะระดับไหนต้องรอติดตาม เมื่อดูจากที่ฝ่ายค้านเตรียมการและโหมโรง คืออนาคตใหม่ พรรคที่หยิบประเด็นนี้มาเป็นปัญหา คงเพียงอยากดึงให้พลเอกประยุทธ์ลงมาเคลียร์ปมนี้ด้วยตัวเอง ส่วนพรรคเพื่อไทย ก็เดินหน้าด้วยท่วงท่าผลักเรือตามน้ำ เมื่อน้องๆอนาคตใหม่สู้ พี่ก็ร่วมรบด้วย

แต่เรื่องนี้ หากสุดท้าย พรรคร่วมฝ่ายค้าน เปิดศึกอภิปรายในสภาแล้ว ผลปรากฏว่า งานกร่อน จืดชืด ข้อมูลไม่เป๊ะ ฝ่ายค้านก็เสียเอง

ข่าวบอกว่า ภาพใหญ่ของการอภิปราย ระดับแกนนำฝ่ายค้าน ระดับหัวๆ ของเจ็ดพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขอจองกฐิน ไม่พลาดที่จะใช้สิทธิอภิปราย โดยตัวหลัก ที่จะเป็น ทัพหน้า  ก็จะมี

สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน เพื่อไทย 

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย  ปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่

 ขณะที่ทัพรอง คอยเสริมทัพหลัก  ในส่วนของเพื่อไทย มีการวางตัวไว้ดังนี้ จิรายุ ห่วงทรัพย์, ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร, ชวลิต วิชยสุทธิ์, ไชยา พรหมา, ขจิต ชัยนิคม, จิราพร สินธุไพร, ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ,

อาจจะมี จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ เป็นตัวสอดแทรก ส่วนของพรรคอนาคตใหม่ ก็จะมีเช่น ศิริกัญญา ตันสกุล เป็นต้น

สำหรับที่มีความติดใจสงสัยกันว่า พรรคฝ่ายค้าน จะลดดีกรีการอภิปรายลงหรือไม่ หลังจาก พลเอกประยุทธ์ นำ คณะรัฐมนตรี รับพระราชดำรัสพร้อมลายพระราชหัตถ์หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ วันอังคารที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา

การที่แกนนำฝ่ายค้าน ทั้งเพื่อไทยและอนาคตใหม่ ไม่ถอนญัตติ ดังกล่าว และยังคงประกาศจะเดินหน้าอภิปรายเรื่องถวายสัตย์ต่อไป แสดงว่าฝ่ายค้าน ได้ประเมินจากรูปการณ์ต่างๆ แล้ว เห็นว่า การที่ไม่ถอยและไม่ลดความหนักหน่วงในการอภิปรายลง คือจังหวะเดินทางการเมืองที่ถูกต้องแล้ว

ยิ่งหากสุดท้าย การประชุมเป็นไปอย่างเปิดเผย ไม่ได้ประชุมลับ แล้วฝ่ายค้านสามารถอภิปรายได้ตรงประเด็น หากตัวนายกฯและรัฐบาลแจงไม่ได้เรื่องการถวายสัตย์ไม่ครบ

ก็คงได้มีการทวงถามความรับผิดชอบทางการเมืองกลางสภา ที่มีการถ่ายทอดไปทั่วประเทศ โดยนายกรัฐมนตรี ตอบแบบเข้าสีข้างเข้าถู ไม่ยอมชี้แจงอ้างพูดเรื่องนี้ไม่ได้ คนดูคงอารมณ์ค้าง คะแนนนิยมก็จะตีกลับ ฝ่ายค้านก็ได้แต้มไป

ปมถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบอีกด้านหนึ่ง ขณะนี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว อาจจะเป็นช่องทางให้พลเอก ประยุทธ์ อ้างจะขอไม่ชี้แจง และขอให้มีการปิดอภิปราย แต่ฝ่ายค้านคงแย้งได้

ว่า กระบวนการตรวจสอบทวงถามจากฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นคนละกรณีกับของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่เป็นเรื่องการตรวจสอบข้อกฎหมาย และฝ่ายค้าน ก็อภิปรายก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ขาด

อีกทั้ง ฝ่ายค้านทำหน้าที่ในฐานะนิติบัญญัติที่ต้องการคำตอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และต้องการทวงถามสปิริตทางการเมือง

หากพลเอกประยุทธ์ คิดจะหลบเลี่ยงแจงปมนี้ ก็คงหนีลำบาก ฝ่ายค้านได้วางกับดักปิดล้อมหมดทุกด้าน และเตรียมคิดรับมือไว้ทุกทางแล้ว

จึงมองได้ว่า ฝ่ายค้าน คงไม่ใส่เกียร์ถอย มีแต่จะเดินหน้าลูกเดียว แม้ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะส่งเรื่องไปยังศาลรธน.แล้ว โดยต้องรอดูว่าศาลจะรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่ ฝ่ายค้าน ก็ยังไม่วางใจ เลือกเดินหน้าขยี้ต่อเนื่อง จนให้เห็นดำเห็นแดง

โดยเพื่อไทยที่คอยผลักเรือตามน้ำ ก็เห็นได้จากที่คนในเครือข่ายเพื่อไทย นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ ถวายสัตย์ไม่ครบ

และการแถลงนโยบายของครม.ที่ตามมาต่อจากนั้น เข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือไม่

การมาของเรืองไกร นักร้องรุ่นใหญ่ คราวนี้ เป็นการยื่นคำร้องเพื่อหวังเพิ่มข้อหากระทำความผิดให้พลเอกประยุทธ์และครม.ให้มากขึ้น คือหากศาลรธน.เห็นว่าการถวายสัตย์ไม่ครบ แล้วมีผลทำให้การแถลงนโยบายเป็นโมฆะ

ก็ขอให้พิจารณาเพิ่มอีกประเด็นว่า พฤติการณ์ดังกล่าว เข้าข่ายล้มล้างการปกครองด้วยหรือไม่ ต้องรอลุ้นว่าศาลรธน.จะรับคำร้องของนายเรืองไกรไว้พิจารณาด้วยหรือไม่

การอภิปรายปมร้อนนี้ ทางสภาฯอาจจะเปิดสมรภูมิเในสัปดาห์หน้า ระหว่าง วันที่ 12-13กันยายน หรือมีความเป็นไปได้จะเป็นช่วงสุดสัปดาห์นี้ไปเลยหรือไม่ คือช่วง 6-7  กันยายน ตามที่ฝ่ายค้านต้องการ   

เรื่องปมถวายสัตย์ฯ ในขั้นตอนการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ในสภาฯ อย่างไรแล้วพลเอกประยุทธ์ ก็ผ่านไปได้ เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องคะแนนเสียง แต่ถ้าแจงไม่ขึ้น ก็สะบักสะบอมกันไป


กำลังโหลดความคิดเห็น