xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : รัฐบาลเสี่ยตู่สั่งเทกระจาด แจกกระหน่ำจัดให้ทุกโปรฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 28 สิงหาคม 2562 ตอน รัฐบาลเสี่ยตู่สั่งเทกระจาด แจกกระหน่ำจัดให้ทุกโปรฯ



รัฐบาลกำลังพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ในจังหวะที่ 7 พรรคฝ่ายค้านเอาแต่เล่นการเมือง เดินสายรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ และจ้องตีรวนเรื่องคุณสมบัติคณะรัฐมนตรี ปมถวายสัตย์ปฏิญาณ ทั้งที่เรื่องปากท้องกำลังเป็นปัญหาใหญ่ และเร่งด่วนของชาติบ้านเมือง

รัฐบาลจึงฉวยโอกาส จัดหนักเข็น “อภิมหาประชานิยม” ออกมาสร้างคะแนนเสียง ตอบสนองสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ผู้คนในประเทศกำลังเผชิญกับภาวะข้าวยากหมากแพง ภัยแล้งทับถม

คนหาเช้ากินค่ำเริ่มจะรับสภาพไม่ไหว ข้าวเหนียวกิโลกรัมละ50 บาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กินแล้วติดคอ

รัฐบาลใช้“ยาแรง” และ “ยาเร็ว” พะยี่ห้อ “ประชานิยม”เพื่อหวังให้บรรเทาสภาพเงินขาดมือเฉพาะหน้าไปก่อน โดยที่ “ครม.เศรษฐกิจ” มี“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะ

เปิดท่ออนุมัติเม็ดเงิน “316,000 ล้านบาท” แจกกระจายแลบเสี่ยสั่งลุย แต่ไม่ลืมเอาหลักวิชาการมาอ้าง ว่าเป็นการกระตุ้นจีดีพีปี 2562 ให้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 เพื่อรับมือผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

เสี่ยตู่สั่งลุย และ มีการเทกระจาดอย่างไรตรงไหนบ้าง? ก็ไล่เรียงตั้งแต่เรื่องภัยแล้งที่ ครม.เศรษฐกิจ ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ช่วยเหลือลูกค้า 909,000 ราย บรรเทาภาระดอกเบี้ย เป็นเวลา 1ปี

นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังเตรียมปล่อยสินเชื่อฉุกเฉินภัยแล้ง วงเงิน 50,000 ล้านบาท ยกเว้นดอกเบี้ยปีแรก ปล่อยกู้ 50,000 บาทต่อราย ยกเว้นดอกเบี้ยปีแรก รวมทั้งยังปล่อยสินเชื่อฟื้นฟูซ่อมแซมความเสียหาย วงเงิน 5,000 ล้านบาท ปล่อยกู้ 500,000บาทต่อราย

คนที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ เป็นประชาชนผู้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรภายในเดือนสิงหาคม จำนวน 3 ล้านราย เพราะช่วยลดภาระต้นทุนการปลูกข้าวนาปีฤดูกาลผลิตปี 2562/2563

ขณะที่ “บัตรคนจน” ของขลัง ที่ช่วยสร้างกระแสให้พรรคพลังประชารัฐมาแล้ว ครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบให้ปรับเพิ่มสวัสดิการสำหรับผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ช่วง 2 เดือน แจกกลุ่มรายได้ต่ำทุกระดับรับค่าครองชีพเพิ่ม 200 -300บาทต่อคน เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม-กันยายน 2562 แพ็กเก็จเอาใจคนกลุ่มนี้ แบบรัวๆมีประชาชนได้รับผลประโยชน์ 14.6 ล้านคน

ไม่ใช่แค่บัตรคนจน แต่คนแก่คนสูงอายุก็ได้รับประโยชน์ โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ ที่ถือบัตรสวัสดิการ การดูแลมารดาประชารัฐสำหรับบุตรแรกเกิด 200-300 บาทต่อราย ในช่วง 5 เดือนหลังของปี ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2562 เพื่อให้มีกำลังซื้อช่วงปลายปี

มาตรากระตุ้นเศรษฐกิจเป็นการ “แจกตังค์ฟรี” แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ในภาวะที่เงินทุกบาททุกสตางค์มีค่า ทำให้ 500 บาท สำหรับผู้มีรายได้น้อย ถือว่า จับต้องได้ อย่างที่เห็นตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ มีประชาชนยืนต่อคิวกดเงินกันยาวเหยียด

ที่สำคัญ ไม่มีใครปฏิเสธเป็น “ประชานิยม” แต่รู้กันว่า “รัฐบาลแจกเงิน” แล้วต้องรีบไปรับ

ส่วนอีกมาตรการ ถือเป็นการเอาใจคนทุกวัย โดยเฉพาะ “วัยรุ่น” ที่ไม่ค่อยได้รับสิทธิอะไร ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” กำหนดให้ใช้เงินนอกถิ่นที่อยู่อาศัยตามทะเบียนบ้าน เพื่อกระจายสู่ท้องถิ่นทุกพื้นที่อื่น หรือ เงินกระตุ้นการท่องเที่ยวนั่นเอง

โดยจะส่งเงินผ่านกระเป๋า E-money วงเงิน 1,000 บาท เมื่อนำเงินออกไปท่องเที่ยวทั่วประเทศเพิ่มเติม จากนั้นจะคืนเงินผ่านแอพฯ ให้อีกร้อยละ 15 ของเงินใช้จ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 30,000 บาท

มาตรการนี้ในทางปฏิบัติจะไปท่องเที่ยวหรือไม่ ไม่มีใครรู้ แต่แค่ข้ามจังหวัดไปใช้เงินก็ถือว่า อยู่ในข่ายนี้ ตามเป้าหมายที่จะมีผู้ได้รับประโยชน์ถึง 10 ล้านคน

ไม่ใช่ประชาชนที่จะได้รับ ภาคธุรกิจเองก็มี หลัง ครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบมาตรการภาษีส่งเสริมการลงทุนในประเทศ เปิดให้นำค่าใช้จ่ายเพื่อจัดซื้อเครื่องมือเครื่องจักรหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่าของค่าใช้จ่ายระยะเวลา 5 ปี

เน้นกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย หรือเอสเอ็มอีคนตัวเล็ก หวังให้เข้าถึงแหล่งทุน โดยให้ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทยปล่อยสินเชื่อวงเงินรวมกัน 100,000 ล้านบาท เงื่อนไขผ่อนปรน ระยะเวลา 7 ปี

นอกจากนั้น ยังให้สิทธิพิเศษอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการค้ำประกันสินเชื่อ ยกเว้นค่าธรรมเนียม 2 ปีแรก และรัฐบาลพร้อมชดเชยปัญหาหนี้ NPL หากได้รับความเสียหายจากหนี้เสีย

โปรฯนี้พวกนักธุรกิจสมัครเล่น ทั้งในออนไลน์ และออฟไลน์ ได้กันแบบเนื้อๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยกำลังสร้างตัว

รัฐบาลยังไปอุ้ม “ชนชั้นกลาง” ที่มีภาระผ่อนบ้าน แต่ต้องมาเจอสภาพเงินไม่พอยาไส้ ได้มี “ตัวช่วย” หลัง ครม.เศรษฐกิจ ไฟเขียวให้ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อบ้าน วงเงิน 25,000 ล้านบาท ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ปล่อยสินเชื่อ วงเงิน 27,000 ล้านบาท

ส่วนพวก “รายได้น้อย” ที่กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน แล้วเป็นหนี้เป็นสิน ค้างจ่ายกันหลายราย ยังได้เฮอีก หลัง ครม.สั่งให้ ธ.ก.ส.พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน ที่มียอดหนี้คงค้างรวม 67,000 ล้านบาท

แพ็กเก็จนี้ ได้กันทุกกลุ่มในสังคม ที่กำลังเดือดร้อน โดยเฉพาะ “คนส่วนใหญ่” ของประเทศอย่างผู้มีรายได้น้อย ที่ได้หลายต่อเหมือนกัน

นี่ยังไม่นับ “ชาวนา” ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) มีมติเห็นชอบการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีโดยการประกันราคาข้าวในฤดูกาลผลิต 2562/2563 วงเงิน 2.1 หมื่นล้านบาท มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเข้าร่วมโครงการประมาณ 3.9 ล้านครัวเรือน

ถือเป็นการช่วย “ชาวนา” และ “สกัด” ม็อบชาวนา ไปพร้อมกัน ไม่ให้ก่อหวอดตั้งแต่เนิ่นๆ จากพิษเศรษฐกิจที่กระทบทุกภาคของสังคมตอนนี้

แม้ทุกคนจะรู้ว่า เป็นประชานิยม แต่การเร่งอัดฉีดชนิดแบบ “จับต้องได้เลย” เป็นการช่วยประคับประคองเศรษฐกิจในประเทศ และประคับประคองตัวรัฐบาลที่ประชาชนคาดหวังว่า ต้องการผลงาน หลังเป็น “จุดอ่อน” มาตลอดในช่วงยุคของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ต่อให้ฝ่ายค้านชำแหละว่า ผลาญเงิน แต่นาทีนี้ คงไม่มีประชาชนที่ไหนมาสนใจว่า จะเป็นอย่างไร เพราะประชาชนแค่ต้องการความช่วยเหลืออย่างใดอย่างหนึ่งในทันที นั่นคือ สิ่งที่ “รัฐบาล” แทงทะลุตรงโจทย์ไปแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น