MGR Online - “ทนายตั้ม” นำ “หมวดจรูญ” พร้อมครอบครัวเข้ากองปราบปราม ถามความคืบหน้าคดี “พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล” อดีต ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เข้ามาแทรกแซงคดีหวย 30 ล้าน ตำรวจเผยเตรียมสรุปส่งอัยการภายในสิ้นเดือนนี้ เผยเงินหวยถอนไปทำบุญบางส่วนแล้ว
วันนี้ (28 ส.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมด้วย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ และครอบครัว เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. เพื่อติดตามสอบถามความคืบหน้ากรณีที่ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีต ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังจากอดีตผู้การจังหวัดกาญจนบุรีเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และสำนวนการสอบสวนฉลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้าน ที่ ร.ต.ท.จรูญ และนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา มีคดีความฟ้องร้องกัน โดย พล.ต.ต.สุทธิได้เรียกคู่กรณีเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกันเป็นการส่วนตัว รวมถึงมีการเรียกขอดูสำนวนการสอบสวน และสั่งให้มีการแก้ไขหลายครั้งจนทำให้เกิดความวุ่นวาย
นายสิทธากล่าวว่า วันนี้ตั้งใจมาติดตามความคืบหน้าของคดีว่ามีความคืบหน้าไปมากน้อยเพียงใด โดยส่วนตัวมองว่าพยานหลักฐานในคดีดังกล่าวค่อนข้างชัดเจน มีการให้ข้อมูลรวมถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปแล้วส่วนหนึ่งแล้ว อีกทั้งยังเห็นว่าการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาวุ่นวายกับการสืบสวนสอบสวนจนอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร จึงอยากให้ดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวเพื่อให้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป อย่างไรก็ตาม มองว่าคดีดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อคดีที่อื่นๆ ระหว่างหมวดจรูญกับครูปรีชาที่ยังอยู่ในชั้นศาล เพราะคดีดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนและอัยการในการสั่งฟ้อง
ด้าน ร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า กรณีที่ไปปิดบัญชีเงินรางวัลจำนวนกว่า 24 ล้านบาทนั้นไม่ได้เป็นการปิดบัญชีเพื่อหนี แต่ทำไปเพราะเห็นว่าเลขบัญชีและเบอร์โทรศัพท์ของตนเองถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนจนทำให้รู้สึกว่าไม่เป็นธรรมและไม่ปลอดภัยต่อเงินในบัญชี จึงจำเป็นต้องปิดบัญชีดังกล่าวเพื่อนำเงินไปฝากในบัญชีอื่นตามที่คู่กรณีพาดพิงถึง ส่วนเงินที่ได้มาจะนำไปทำอะไรบ้างนั้นต้องรอปรึกษากับภรรยาและครอบครัวก่อน แต่เบื้องต้นเงินที่ได้มาก็มีการนำไปทำบุญแล้วบางส่วน
ร.ต.ท.จรูญกล่าวต่อว่า ส่วนคดีของ พล.ต.ต.สุทธิ มองว่ามีความคืบหน้าไปมากพอสมควร และปรากฏข้อเท็จจริงมาเยอะแล้ว จึงให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ อัยการ และทนายความ แต่ที่เดินทางมาในวันนี้ก็ต้องการรู้ความคืบหน้าของคดีดังกล่าวว่ามีการดำเนินการไปถึงขั้นตอนใดแล้ว ส่วนที่ครูปรีชาและทนายความจะดำเนินการยื่นเรื่องร้องเรียนหรือคัดค้านนั้นก็มองว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่จะไม่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำดังกล่าว
ต่อมานายษิทธากล่าวภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนว่าขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยมีการรวบรวมพยานหลักฐานไปแล้วบางส่วนและต้องมีการสอบปากคำพยานในฝั่งของหมวดจรูญอีกประมาณ 1-2 ปาก โดยจะมีการส่งพนักงานสอบสวนลงไปสอบปากคำที่ จ.กาญจนบุรี อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนยืนยันกับตนว่าจะรวบรวมสรุปสำนวนส่งต่ออัยการภายในสิ้นเดือนนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าพอใจกับลูกความตนเอง