xs
xsm
sm
md
lg

ม.ดังย่านสามเสน รับ นศ.จัดกันเองรับน้องโหด 4 รุ่นพี่ดอดมอบตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
มอบตัวแล้ว 4 รุ่นพี่ ม.ดังย่านสามเสนรับน้องโหด มหาวิทยาลัยปัดไม่รับรู้กิจกรรม ระบุจัดกันเองมากว่า 10 ปี ตร.แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจำคุก 2 ปี ปรับ 4,000 บาท

จากกรณี นายพิสาร (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี พ่อนายเดช (นามสมมุติ ) อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังย่าน สามเสนเข้าพบ ร.ต.อ.วรพรต ตาลแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สน.สามเสน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ และกักขังหน่วงเหนี่ยว พร้อมโชว์หลักฐานเป็นรอยฟกช้ำ แผลพุพองที่อยู่ตามลำตัว ทั้งไหล่ แขน และหน้าท้อง ที่ถูกรุ่นพี่ 4-5 คนรุมทำร้ายร่างกายในกิจกรรมรับน้อง นานกว่า 2 เดือน โดยรุ่นพี่ให้เหตุผลว่าต้องร่วมกิจกรรมเข้าระบบนี้หนึ่งภาคการศึกษา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (26 ส.ค.) นายบาส นายอัฟ นายเจม และนายโน๊ต อายุระหว่าง 21-22 ปี 4 นักศึกษาชั้นปี 3 สถาบันดังกล่าว ซึ่งถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ที่รุมทำร้านนายเดช (นามสมมุติ) ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ธนพรหม ธนอาภากร สว.สส. สน.สามเ สน ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดที่ สน.สามเสน

โดย พ.ต.อ นครินทร์ สุคนธวิท รองผบก.น.1 กล่าวว่า หลังได้รับการร้องทุกข์จากรุ่นน้องได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ติดตามตัวที่บ้านพักของรุ่นพี่ทั้ง 4 ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังไม่พบ จนกระทั่งช่วงเช้าทั้ง 4 คนได้เข้ามอบตัว โดยสอบปากคำเบื้องต้น อ้างเป็นระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง ซึ่งหลังจากนี้จะมีการแยกสอบปากคำทั้ง 4 คน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุด แต่จากการตรวจสอบบาดแผลของรุ่นน้อง เบื้องต้นสามารถแจ้งดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บก่อน ส่วนข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และข้อหาอื่นๆ ต้องรอผลการสอบปากคำของรุ่นพี่ทั้งหมด และผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ รพ.วชิรพยาบาล ซึ่งหากเข้าข่ายความผิดข้อหาใด ก็สามารถแจ้งดำเนินคดีเพิ่มได้ในภายหลัง

ด้าน พ.ต.อ.รัชพล ชนะศรีขจร รองผบก.น.1 กล่าวภายหลังการสอบถามรุ่นพี่ทั้ง 4 คนว่า จากการสอบสวน ทั้งหมดให้การยอมรับว่า มีการจัดกิจกรรมรับน้องจริง แต่ไม่ได้ใช้ความรุนแรงทำร้ายเตะต่อย ตามคำกล่าวอ้างของผู้เสียหาย บ้านที่ผู้เสียหายอ้างว่าถูกพาไปทำร้ายร่างกาย เป็นเพียงบ้านของหนึ่งในรุ่นพี่ ไม่ได้เช่าไว้ก่อเหตุโดยเฉพาะ ส่วนหลักฐานที่ปรากฏตามลำตัวเป็นรอยพกช้ำตามจุดต่างๆ ได้ส่งตัวให้แพทย์ตรวจร่างกายว่าเกิดจากสาเหตุใด

ทั้งนี้กิจกรรมรับน้องดังกล่าว ทางอาจารย์หรือมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนรู้เห็น เป็นกิจกรรมที่รุ่นพี่จัดขึ้นมาเอง จัดมาเป็นรุ่นต่อรุ่นติดต่อกันนานกว่า 10 ปีแล้ว ส่วนประเด็นที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างว่า มีรุ่นน้องที่ถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้ลาออกจำนวน 18-19 คนนั้น จากการพูดคุยกับทางผู้ที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีเพียง 6 คน ที่ลาออกจากมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังไม่ยืนยันสาเหตุที่ลาออกเป็นเพราะถูกรุ่นพี่รับน้องรุนแรงหรือไม่ เพราะบางคนก็ได้ที่เรียนใหม่จึงลาอกไป ส่วนประเด็นอื่นๆ อยู่ระหว่างอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท ในกรณีนี้เป็นการแจ้งข้อกล่าวหา โดยไม่มีการควบคุมตัวเนื่องจากไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า และผู้ต้องหาเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเอง ซึ่งหากมีการสอบปากคำเสร็จสิ้น ก็จะปล่อยตัวชั่วคราว ถ้าหากมีประเด็นใดสงสัยเพิ่มเติมก็จะเรียกเข้ามาให้ปากคำอีกครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีตามที่สื่อสังคมออนโซเชียลมีเดียได้นำเสนอข่าว แฉ! รุ่นพี่โหดเถื่อนรุมทารุณรับน้องวันละ 3 ชม. กว่า 2 เดือน อ้างประเพณี เหลืออดลาออกยกห้อง ว่า ขอเรียนว่าได้รับรายงานเพิ่มเติมจาก สน.สามเสน ในวันนี้ (26 ส.ค. 62) หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์จากผู้ปกครองของผู้เสียหาย ให้ดำเนินคดีกับทางกลุ่มรุ่นพี่ที่ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ทาง สน.สามเสน ได้ประสานไปยังอาจารย์ ของมหาวิทยาลัย เพื่อให้เรียกตัวกลุ่มรุ่นพี่ที่ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ขณะนี้ได้พิสูจน์ทราบในเบื้องต้นถึงกลุ่มผู้กระทำความผิด มีจำนวน 4 ราย และดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมในการแจ้งข้อกล่าวหาฐาน ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ ตาม ป.อ. อาญา มาตรา 295 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของผู้เสียหายรายอื่นในกรณีดังกล่าว ที่ยังไม่ได้มาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ให้สามารถมาดำเนินการร้องทุกข์ที่ สน.สามเสน ได้ทันที เมื่อผู้เสียหายร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ก็จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานสอบปากคำพยาน ส่งตัวผู้บาดเจ็บไปพบแพทย์เพื่อนำผลการตรวจมาประกอบคดี และ ดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมโดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

อีกทั้งขอฝากเตือน ไปยังรุ่นพี่ของสถาบันต่างๆ หากจะจัดกิจกรรม การรับน้องตามประเพณีหรืธรรมเนียมปฏิบัติของสถาบัน ควรจัดกิจกรรมที่เป็นไปในแนวสร้างสรรค์ เน้นถึงความรักความสามัคคีของหมู่คณะที่มีต่อสถาบัน ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตร่างกาย จิตใจ ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม และควรปรึกษาครูฝ่ายปกครองหรืออาจารย์ที่รับผิดชอบ เพื่อช่วยกำกับดูแลถึงความเหมาะสมความปลอดภัยของผู้ร่วมกิจกรรม หากทำไปโดยพละการไม่ว่าจะเป็นด้วยความคึกคะนองหรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วเกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียถึงขั้นชีวิต ตัวผู้กระทำเองก็จะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เสียชื่อ เสียประวัติ และอนาคต

ทั้งนี้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชันจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับและมีความห่วงใยในเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะที่ผ่านมามีความสูญเสียถึงแก่ชีวิตไปแล้วจำนวนหลายราย โดยขอฝากไปยังผู้บริหารคณะครูอาจารย์ของสถาบันต่างๆ ให้ช่วยลงมากำกับดูแลและเข้มงวดในการจัดกิจกรรมของนักเรียนนักศึกษา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ เมื่อเกิดเหตุแล้วอาจนำมาซึ่งความสูญเสีย ความเสียใจและไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขได้


กำลังโหลดความคิดเห็น