MGR online - เป็นข่าวดังชั่วข้ามคืนกรณีของ นายสัมฤทธิ์ ริมเถือน หรือ "เสือ ดุสิต" นักเลงชื่อดังวัย 33 ปี ก่อเหตุร่วมกับเพื่อนรุ่นน้อง นายวัชระ มากจงดี หรือ "โจ๊ก" อายุ 22 ปี ถืออาวุธปืนเข้าไปชิงเงินจากบ่อนพนันไฮโลแห่งหนึ่ง เดิมเปิดเป็นโต๊ะสนุ้กเกอร์ของ "เฮีย ต." ภายในซอยพหลโยธิน 50 แยก 1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เพื่อต้องการเอาเงินจำนวน 2 หมื่นบาท ที่เสียไปให้เจ้ามือที่อ้างว่าโดนโกงกลับคืนมา
มูลเหตุมาจากมีคนในบ่อนมาสะกิดบอกให้เลิกเล่น เพราะบ่อนนี้เขาบังคับลูกเต๋าได้ จึงโมโหชักปืนบีบีคู่กายข่มขู่เอาเงินคืน จนวันที่ (25 ส.ค.) ถูกตำรวจ สน.บางเขน จับกุมในข้อหา "ลักลอบเล่นการพนันและทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว" หลังเกิดเหตุช่วงดึกของวันที่ (23 ส.ค.) ทางบ่อนไม่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ เพราะกลัวที่ตนเองกระผิดกฎหมายอยู่ จึงพูดคุยเคลียร์ใจตกลงคืนเงินให้ แต่มีข่าวมาว่า "เฮีย ต."แค้นสั่งตายภายใน 3 เดือน
ต่อมาวันที่ 24 ส.ค. "เสือ ดุสิต" ได้โพสต์ข้อความว่า "ชีวิตผมไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ผมแค่ไปเอาเงินคืน ก็ต้องตามที่ผม ครอบครัวผมไม่เกี่ยว ลูกผู้ชายหน่อยคับ ตราหน้าผมไว้เลย ผมอะเด็กสายไหม เงินแค่นี้ท่านไม่สะดุ้งหรอก ท่านก็คิดสะว่าทำบุญ" ชาวติ่งต่างเข้ามารัวคีย์บอร์ดให้กำลังใจ ราวกับเรื่องที่เกิดเป็นฝั่ง "เสือ ดุสิต" ถูกเอาเปรียบ และไม่นานโพสต์ดังกล่าวก็หายออกไป เรื่องดังกล่าวก็มาเป็นเรื่องเมื่อ ผบก.น.2 มีคำสั่งย้าย 4 เสือบางเขน ฐานปล่อยปละละเลยให้มีบ่อน
สำหรับชื่อ "เสือ ดุสิต" ทั้งชาวโซเชียลและชาวสายไหมต่างรู้จักเขาเป็นอย่างดี รวมถึงในวงการ Fight Club Thailand สนามมวยเชือกมนุษย์ที่เจ้าตัวฝากฝีไม้ลายมือไว้หลายครั้ง แต่มาโด่งดังก็เมื่อเปิดศึกน้ำลายกับนักเลงคนดัง นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ "เสี่ยโป้" ที่ถูกจับความผิดฐาน พ.ร.บ.การพนัน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พร้อมกับเพื่อนซี้ นายมัครินทร์ พุ่มสะอาด หรือ "เน วัดดาว" ช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
"เสือ ดุสิต" นักเลงจากสายไหม และ "เสี่ยโป้" นักเลงจากฝั่งธนฯ ด่าถล่มกันไปมาในไลฟ์สดนานอยู่พักหนึ่ง มีนักเลงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีกหลายคนหนึ่งในนั้นมี "เสี่ยบุ๊ค" น้องชายเสี่ยโป้ รุนแรงถึงขั้นทั้งสองฝ่ายเคยประกาศไว้ว่า "หากเจอกันตรงไหนในประเทศจะเอาถึงตาย" จนเคยท้าขึ้นชกกันบนเวทีมวย แน่นอนว่าต่างฝ่ายต่างมีแฟนคลับซึ่งทาง "เสี่ยโป้" ดูจะมีแฟนคลับมากกว่าแต่ก็มีคนจ้องถล่มเยอะเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อไรที่ทั้งสองเปิดศึกน้ำลายดูเหมือนว่า "เสือ ดุสิต" คือพระเอกในคราบนักเลงตัวจริงในสายตาแฟนคลับ ด้วยคำพูด กิริยา อายุ สิ่งประกอบอีกหลายอย่าง ทำให้เขาดูเป็นคนจริงน่าเชื่อถือกว่า ชนิดที่ว่าสามารถทำให้เด็กฝั่งธนฯคนหนึ่ง ที่เคยเกลียดเขาเอนใจมาเป็นแฟนคลับเขาได้ เคยบิด จยย.ข้ามฝั่งมาดื่มเหล้าถึงสายไหม แม้ว่า "เสือ ดุสิต" จะถูกยกให้เป็นนักเลง แต่ตัวเขาไม่เคยแสดงพฤติกรรมกร่างใส่คนอื่น หน่ำซ้ำพร้อมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเสมอ
ส่วนพฤติกรรมของการไลฟ์สด "เสือ ดุสิต" มักปรากฎตัวชอบใส่หมวกขณะดื่มเหล้าเป็นประจำ โดยพูดจาลักษณะถ่อมตนชอบเปรียบเทียบกับ "เสี่ยโป้" ทั้งเรื่องเงินทองและแฟนคลับอยู่เสมอ มีนิสัยนักเลง ใจถึง กล้าได้กล้าเสีย ไม่ชอบคนดูถูก ไม่ชอบถูกเอาเปรียบ ชอบความถูกต้องยุติธรรม ชอบพูดเล่นเรื่องเลียของลับผู้หญิง และยังชื่นชอบการพนัน ส่วนที่มาของฉายามาจากเคยเรียนที่เทคโนโลยีดุสิต
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรณีเข้าไปชิงเงินในบ่อนไฮโล คงคิดว่าตัวเองถูกเอาเปรียบบวกกับนิสัยใจร้อน จนเป็นเรื่องเป็นราวถูกดำเนินคดี เรื่องนี้แฟนคลับยังคงให้กำลังใจ โดยเขาให้คำสัญญาไว้ว่า "หลังพ้นโทษจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับการพนัน แล้วหันมาทำงานสุจริตดูแลครอบครัว" เชื่อว่านี้คือบทเรียนครั้งสำคัญของผู้ชายที่ชื่อ "เสือ ดุสิต" แต่ได้ยินมาว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการวางงาน และมีนักข่าวรับกินอยู่ในบ่อนแห่งนี้ด้วย