xs
xsm
sm
md
lg

191 จับแก๊งค้ายาเสพติด 3 รายรวด มีทั้งคนไทยและไนจีเรีย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR online - ตำรวจ 191 โชว์ผลงานจับยาเสพติด 3 คดีรวด รวบทั้งคนไทยและไนจีเรีย พร้อมเมียค้ายานรก ของกลางรวมกว่า 2 ล้านเม็ด

วันนี้ (13 ส.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ.(191) พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รอง ผบก.สปพ.(191) พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) และตำรวจ กก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องคดียาเสพติดสำคัญ 3 คดี

คดีที่ 1 แถลงข่าว พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) และตำรวจงานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) จับกุม นายกรีฑา หรือไอซ์ โพธิ์ปลุก อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 250/11 ซอยรามคำแหง 112 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. และนายบัณฑิต หรือตั้ม กองแก้ว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. พร้อมของกลาง ยาบ้า 2,000,000 เม็ด ยาอี 4,000 เม็ด ไอซ์ 15 กก. และเคตามีนแบบผง 1 กก.

พล.ต.ต.สำราญ กล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดสืบสวนบก.สปพ.(191) ได้เบาะแสว่า มีผู้ค้ารายใหญ่จะลำเลียงยาเสพติดจาก อ.องครักษ์ จ.นครนายก มาเก็บซุกซ่อนไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านสัมมากร ถนนรามคำแหง ซอย 112 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. เพื่อเป็นจุดพักคอยก่อนส่งให้ลูกค้า ชุดจับกุมนำกำลังปิดล้อมเฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งพบ นายกรีฑา ขับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ถฐ 2301 กรุงเทพมหานคร โดยมี นายบัณฑิต ขับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน ญร 5989 กรุงเทพมหานคร นำทางและคอยระวังด่านตรวจ ทั้งคู่ขับออกมาจากชุมชนแออัด ในหมู่สัมมากร ก่อนมุ่งหน้าไป ถนนรังสิต-นครนายก จึงสะกดรอยติดตามไปจนพบว่า รถทั้ง 2 คน จอดอยู่ที่รออยู่ทั่งหน้าปั๊มน้ามันปตท. สาขาองค์รักษ์ จ.นครนายก ก่อนขับรถไปยาเสพติดจากทีมลำเลียงยานรก ภายในซอยเปลี่ยวห่างจากปั๊มดังกล่าว 5 กม.

ต่อมา เวลา 03.00 น. วันที่ 11 ส.ค. ทั้งคู่ขับรถกระบะ 2 คันเข้า กทม. ไปจอดที่ลานจอดรถหน้าห้างแม็คโคร ปากซอยรามคำแหง 110 จากนั้นเวลา 04.00 น. นายกรีฑา ขับรถกระบะคันสีบรอนซ์ เข้ามากลางซอยหมู่บ้านสัมมากร โดยไม่รู้ตัวว่าชุดสืบสวนสะกดรอยตามจึงเข้าจับกุมตรวจค้นภายในห้องโดยสาร พบยาบ้าห่อกระดาษสาเทียนไขสีเหลือง ประทับตรา 999 จำนวน 1,000 มัด รวม 2 ล้านเม็ด และจับ นายบัณฑิต ขณะขับรถกระบะคันสีเทา ไปที่บริเวณริมถนนคู่ขนานกรุงเทพ-ชลบุรี อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ

ชุดจับกุมนำตัวทั้งคู่ไปตรวจค้นบริเวณป่าด้านหลังเพิงพักในชุมชนแออัด หมู่บ้านสัมมากร ซอย 56 ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของ นายบัณฑิต พบไอซ์ ยาอี และยาเคตามีน ซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกสีดำมีไม้กระดานปิดทับเอาไว้ นำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.บางชัน ดำเนินคดี พร้อมทั้งขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการต่อไป

เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า ยาอี และไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย"

คดีที่ 2 แถลงข่าว พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) และตำรวจงานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) จับกุม นายมานพ หรือบังโบ๊ท จันทร์ละออ อายุ 21 ปี ได้ที่บ้านเลขที่ 46 ซอยจ่าโสด แยก 9 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กทม. ข้อหา "สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐาน และได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสบคบกัน"

พ.ต.อ.ปิยรัช กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 61 ชุดสืบสวนหาข่าวงานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) ได้รับเบาะแสว่า มีเครือข่ายยาเสพติดลักลอบจำหน่ายยาเสพติดผ่านออนไลน์ และจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าย่านบางนา วางแผนล่อซื้อยาเสพติดสามารถจับกุม นายศุภจักร หรืออู๋ แย้มนันท์ แอดมินกลุ่ม "LSX", นายอนุวัฒน์ หรือเต้ย คำพันธ์, นายอาทร หรือกัส อยู่เย็น และนายจุฑาวุฒิ หรือชาย โพธิ์อยู่ ทั้งหมดอายุ 20 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 5,000 เม็ด และไอซ์ 3.7 กรัม ได้ที่ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถ.ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด"

จาการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ให้การซัดทอดว่า ซื้อยาเสพติดมาจาก นายมานพ หรือบังโบ๊ท จันทร์ละออ จึงออกสืบสวนติดตามจับกุม ต่อมาวันที่ 20 มี.ค. 62 ชุดสืบสวนได้ร่วมจับกุม นายสุรพงษ์ หรือต้อม คงคำสัตย์ ได้บริเวณย่านถนนสุขุมวิท 71 (ปรีดี พนมยงค์) พร้อมของกลาง ยาบ้า 5,900 เม็ด และไอซ์ 126 กรัม อาวุธปืน 2 กระบอก ภายหลังตำรวจ สน.คลองตัน สามารถจับกุม นายมานะศักดิ์ หรือทิด แก้วศรี ได้บริเวณภายในชุมชนคลองเตย ข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด" จากการขยายผลวันที่ 21 มี.ค. 62 ชุดสืบสวนสามารถจับกุม นายอดิศักดิ์ หรือบอย ชอบมะรัง และ น.ส.บัว หรือเนย ทองประสม ได้บริเวณย่านถนนสุขุมวิท 71 พร้อมของกลาง ยาบ้า 12,000 เม็ด ส่วน นายวิทยา หรือบอล เวฬุวนารักษ์ ผู้ต้องหาอีกรายอยู่ระหว่างติดตามจับกุม
กระทั่งวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุม นายมานพ จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่า ได้ลักลอบซื้อยาเสพติดมาจาก นายสุรพงษ์ แล้วนำไปจำหน่ายต่อให้กับ นายอาทร และทราบว่ายังมีเครือข่ายลักลอบยาเสพติดผ่านออนไลน์ย่านบางนาอีกหลายราย ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างสืบสวนติดตามจับกุมต่อไป

และคดีที่ 3 แถลงข่าว พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) และตำรวจงานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) จับกุม นายโบคอน โจนาส (Mr.Bokon Jonas) หรือ นายโจนาธาน ออนโนฮา อุไกเว่ (Mr.Jonathan Onuoha Ukaiwe) อายุ 38 ปี สัญชาติเซียร์ราลีโอน หรือ ไนจีเรีย และ น.ส.วาสนา สาระวิถี อายุ 37 ปี ภรรยา

พ.ต.อ.ปิยรัช กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนได้รับเบาะแสว่า ชายชาวต่างชาติผิวดำลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ตามสถานบริการย่านบางนาและผู้เสพทั่วไป จึงได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรมจนพบมีการจำหน่ายยาเสพติดจริง โดยผู้ที่จำหน่ายยาเสพติดพักอยู่ในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้น แล้วเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 114/115 F5 ซอย 19 หมู่บ้านเดอะคัลเลอร์ เลชเซอร์ (โครงการอารียา เดอะคัลเลอร์ บางนา) ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา

จากการตรวจค้นพบ นายโบคอน โจนาส ชาวไนจีเรีย และ น.ส.วาสนา พร้อมของกลาง ไอซ์ 1.1 กก. เฮโรอีน 306 กรัม โคเคน 101 กรัม และบัญชีธนาคารรวมกว่า 10 เล่ม มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 3 ล้านบาท จากการสอบสวน นายโบคอน โจนาส ให้การรับสารภาพว่า ทำธุรกิจเกี่ยวกับชิปปิ้งส่งออกนอกประเทศเป็นธุรกิจบังหน้า และได้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดโดยมี นายอาคีน สัญชาติไนจีเรีย เป็นผู้สั่งการอยู่ต่างประเทศ ส่วนนายโบคอน โจนาส ทำหน้าที่นำยาเสพติดไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ตามที่นัดกับลูกค้า ทั้งนี้ ในขณะเข้าตรวจค้น นายโบคอน โจนาส ได้ไหวตัววิ่งหนีขึ้นไปชั้น 2 แล้วพยายามทิ้งยาเสพติดลงในชักโครก แต่ตำรวจรู้ทันวิ่งไปประกบตัวไว้ได้
ขณะที่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า ในคดีจับยาเสพติดของ บก.สปพ.(191) สืบเนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนแจ้งเบาะแสมา ตำรวจจึงทำการสืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ต้องหารายใหญ่ได้ ทั้งนี้ การจำหน่ายในสถานบริการซึ่งมีชาวต่างชาติ เป็นขบวนการ ที่รัฐบาลและ บช.น.ให้ความสำคัญ และมีการปฏิบัติการบูรณการกับ ปปส.กทม.ต่อเนื่องมาตลอดจนจับกุมได้ทั้ง 2 ราย โดยเฉพาะรายที่เป็นชาวไนจีเรียเป็นคดีสำคัญ เพราะเป็นกรณีที่ชาวต่างชาตินำยาเสพติดเข้ามาจำน่ายในสถานบริการ หรือให้กับชาวต่างชาติด้วยกันเอง








กำลังโหลดความคิดเห็น