ข่าวลึกปมลับ : เพื่อไทยจองกฐินซักฟอก นายกฯ ถวายสัตย์ไม่ชอบ

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 6 สิงหาคม 2562 ตอน เพื่อไทยจองกฐินซักฟอก นายกฯ ถวายสัตย์ไม่ชอบ



นับจากนี้ไป เหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งเดือนครึ่งเท่านั้น ก็จะปิดสมัยประชุมสภาฯ ในวันที่18 กันยายน
 ดูจากปฏิทินการเมือง ถึงตอนนี้เรื่องสำคัญที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ

ยังไม่มีการเสนอร่างพ.ร.บ. สำคัญ ๆจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯแต่อย่างใด จะมีที่เป็นไฮไลท์สำคัญ แค่เรื่องเดียว คือร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี  2563 วงเงิน3.2  ล้านล้านบาท

ตามข่าวคาดว่าจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีกันวันนี้ และนำส่งสภาฯ ตุลาคม ทำให้ต้องมีการเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญเป็นกรณีพิเศษ  

แต่ก่อนจะถึงช่วงก่อนปิดประชุมสภาฯในเดือนหน้า ต้องจับตาดูท่าทีทางการเมืองของ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มี พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคหัวแถว

เนื่องจากเวลานี้ เริ่มมีแนวคิดของคนในพรรคเพื่อไทย บางส่วนที่เห็นว่า ฝ่ายค้าน ควรมีการเข้าชื่อกันเพื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ความเคลื่อนไหวบางส่วนของคนเพื่อไทย ถึงขั้นเสนอให้ยื่นซักฟอก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกันไปเลย

โดยเจ้าของแนวคิดดังกล่าว ก็คือ สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ประธานวิปฝ่ายค้าน ที่หยิบยกประเด็น การถวายสัตย์ ของพลเอกประยุทธ์ในวันนำคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ก่อนปฏิบัติหน้าที่

ที่นายสุทินชี้ว่า เป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 161 เพราะนำครม.กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบถ้วน  

จึงเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีน้ำหนักเพียงพอ ที่จะนำไปสู่การยื่นซักฟอกพลเอกประยุทธ์ได้  โดยอ้างว่าการยื่นซักฟอกดังกล่าว ควรต้องทำเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดินตามมาภายหลัง

เพราะหากสุดท้าย มีการชี้ประเด็นข้อกฎหมายว่า พลเอกประยุทธ์ ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ไม่ครบถ้วน จนทำให้การเป็นนายกฯหรือการบริหาราชการของครม.นับจากวันเข้าเฝ้าถวายสัตย์  เป็นโมฆะ

ท่าทีของฝ่ายเพื่อไทยในเรื่องความเป็นไปได้ที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี จับกระแสคนในพรรคเพื่อไทยได้ว่า  มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จึงยังมีความเห็นที่ไม่ตกผลึกเป็นเนื้อเดียว  

ความคิดในการจะยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯหรือรัฐมนตรีบางคน เป็นสัญญาณที่เริ่มออกมาจาก สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ

ขณะที่ฝ่ายที่ยังมองว่าไม่สมควรยื่นซักฟอก ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า ยังเร็วเกินไป เพราะหากไม่มีข้อมูล หรือประเด็นที่พบว่า นายกฯหรือรัฐมนตรี ทุจริตคอรัปชั่น ใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางมิชอบ

ซึ่งต้องเป็นเรื่องที่มีน้ำหนัก มีเหตุมีผลถึงขั้นล้มรัฐบาลหรือ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง  ถ้าฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลแน่นพอ แล้วไปยื่นซักฟอก ฝ่ายค้าน ก็จะเสียเอง คนจะมองว่า เล่นบทฝ่ายแค้นไม่ใช่ฝ่ายค้าน  

ซึ่ง นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค ค่อนข้างจะมีท่าทีอยู่ในฝ่ายหลังคือยังมองว่า หากไม่มีข้อมูลทางลบของนายกฯและรัฐบาลเรื่องอะไรที่รุนแรงพอ ก็ยังไม่ควรยื่นซักฟอก ควรรอให้รัฐบาลทำงานไปสักระยะก่อน

คนในเพื่อไทย บางส่วนก็เห็นตามเลขาฯพรรค เพราะมองว่า หากมีการยื่นซักฟอก  แล้วมีการเปิดอภิปรายกันช่วงก่อนปิดสมัยประชุมกลางเดือนกันยายน เท่ากับรัฐบาลทำงานไม่ถึงสองเดือน  ก็มายื่นไม่ไว้วางใจกันแล้ว

ควรรอเปิดประชุมสภาฯสมัยถัดไป ในช่วงปลายปีนี้  ก็ยังทัน เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๕๔ บัญญติไว้ว่า “การเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ให้กระทําได้ปีละหนึ่งครั้ง”

ดังนั้น ฝ่ายค้าน ก็ยังสามารถใช้สิทธิ์ดังกล่าวได้ทัน และจะดูดีกว่า เพราะถึงตอนนั้น ก็เท่ากับ นายกฯและรัฐบาลทำงานไปได้ร่วมห้าเดือนแล้ว ฝ่ายค้าน จึงน่าจะมีประเด็นและข้อมูลไปอภิปรายได้มากกว่าที่จะอภิปรายกันช่วงเดือนกันยายน

 จากความเห็นที่ยังไม่ตกผลึก มีความเห็นออกไปสองทางในเรื่องการยื่นซักฟอก ของคนในพรรคเพื่อไทยดังกล่าว จึงทำให้ยังไม่มีความชัดเจนว่าสุดท้าย 7พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะเอาแน่หรือไม่ กับการยื่นซักฟอกก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ