พี่ชายเข้าพบทนายรณรงค์ ร้องขอความเป็นธรรมหลังน้องสาวทำศัลยกรรมเหลาโหนกแก้ม เหลาคาง ที่คลินิกย่านรัชดาฯ กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามานานกว่า 5 เดือนมีค่ารักษาที่ต้องจ่าย รพ.จำนวน 3 ล้านบาท ทางคลินิกไม่ติดต่อแสดงความรับผิดชอบ
วันที่ 6 ส.ค. 62 ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายอภิภู หิรัณยณิช อายุ 26 ปี เจ้าของโรงงานทำอิฐมอญ เดินทางเข้าพบ ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและให้สืบหาข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับการทำศัลยกรรมของ น.ส.นิ้ง (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นน้องสาว หลังเข้ารับการทำศัลยกรรมเหลาโหนกแก้ม เหลาคาง และทำตา 2 ชั้น ที่คลินิกแห่งหนึ่ง ถนนรัชดาภิเษก กทม.เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 62 เวลา 17.00 น. โดยผ่านเอเยนซี่ จากนั้นหลังผ่าตัดน้องสาวไม่รู้สึกตัว และมีอาการชัก ทางคลินิกศัลยกรรมนำตัวส่ง รพ.พระราม 9 ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดทำการรักษาทันที ผ่านมา 5 เดือนกว่า น.ส.นิ้ง ยังไม่รู้สึกตัวเหมือนเจ้าหญิงนิทรา แพทย์ลงความเห็นเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 62 ว่า ภาวะสมองขาดอากาศ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ไม่สามารถโต้ตอบ ต้องได้รับการฟืนฟูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้มีค่ารักษาที่ต้องจ่าย รพ.อีกจำนวน 3 ล้านบาท ทางคลินิกและแพทย์ที่ทำการศัลยกรรมไม่ติดต่อเพื่อรับผิดชอบ
นายอภิภู หิรัณยณิช อายุ 26 ปี กล่าวว่า วันนี้มาร้องขอความเป็นธรรมกรณีน้องสาวทำศัลยกรรมที่คลินิกแห่งหนึ่งทำให้เป็นเจ้าหญิงนิทรา มานาน 5 เดือนกว่า ทางครอบครัวยังไม่ได้รับทราบข้อเท็จจริงว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นว่าทำไมทำศัลยกรรมแล้วทำไมเป็นสภาพแบบนี้ ตอนนี้ทางโรงพยาบาลที่ทำการรักษาหลังจากออกจากคลินิกแจ้งว่าสมองขาดออกซิเจนและเลือดไปเลี้ยง น้องไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ยังหาผู้รับผิดชอบไม่ได้ ตอนนี้ค้างอยู่ประมาณ 3 ล้านบาท แพทย์ที่ทำศัลยกรรมจ่ายให้ไปเบื้องต้นตอนที่มารักษาครั้งแรกแล้ว 1 ล้านบาท หลังจากนั้น ไม่ได้รับการติดต่ออีกเลย ทางโรงพยาบาลใหม่ได้ติดต่อไปที่คลินิกก็ไม่สามารถติดต่อได้ ตอนนี้ครอบครัวหมดหวังเรื่องน้องจะหาย แพทย์ก็ลงความเห็นว่าน้องไม่น่าจะฟื้น ตนต้องการร้องขอความธรรมในเรื่องข้อเท็จจริง เรียกร้องให้คลินิกและแพทย์รับผิดชอบ ตอนนี้คนเครียดและกังวลมาก ตอนนี้ครอบครัวรอแค่ปาฏิหาริย์เท่านั้น ตนอยากรู้สาเหตุที่น้องเป็นแบบนี้เกิดจากอะไร
ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูว่าทางคลินิกและแพทย์ประมาทเลินเล่อหรือไม่ ตามประมวลกฏหมายแพ่งพาณิชย์มาตรา 420 ต้องรับผิดชอบ เคสนี้น้องสมองขาดออกซิเจนไม่น่าจะเกิดขึ้น เรื่องทางการแพทย์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ทางคลินิกและแพทย์ต้องมีการจรวจสอบว่าทีใบอนุญาตถูกต้องไหม เป็นหน้าที่ สบส.มีความผิดทั้งหมอและคลินิก คดีนี้ยังไม่ชัดเจนเลยว่าเกิดจากอะไรต้องหาสาเหตุให้ได้ก่อน สำหรับค่าใช้จ่ายทางคลินิกและหมอต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย หลังจากนี้ ต้องดูว่าญาติต้องจะฟ้องร้องดำเนินคดีหรือไม่ ต้องฝากหน่วยงานที่รับผิดชอบคดีนี้ช่วยเร่งคดีหาสาเหตุและผู้รับผิดชอบให้เร็วหน่อย
เบื้องต้นคดีนี้ได้แจ้งความไว้ที่ สน.สุทธิสาร และทาง สบส.ได้เรียกญาติไปสอบถามข้อมูลและอาการผู้ป่วยแล้ว แต่ผ่านมา 5 เดือน คดียังไม่คืบ ไม่มีการติดต่อแสดงความรับผิดชอบใดๆ