MGR online - บก.น.1 จับมือเอกชนลงนาม MOU ใช้ AI ติดตั้งระบบปัญญาประดิษฐ์ เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยปชช.ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2 แสนตารางเมตร นำร่อง ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง
วันนี้ (25 ก.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ ผกก.ฝอ.บก.น.1 พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.ห้วยขวาง น.ส.บราลี ชุติมา กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเตอร์สเต็ปส์ จำกัด ดร.พีรวัฒน์ สุรเศรษฐ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ กรุงเทพฯ (กต.ตร.กทม.) และภาคประชาชน ร่วมแถลงข่าวในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) กับ บริษัท อินเตอร์สเต็ปส์ จำกัด โครงการ "ทดลองติดตั้งระบบปัญญาประดิษฐ์ เพื่อการวิเคราะห์ตรวจตราความปลอดภัย และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่สาธารณะ" (Artificial Intelligent System for Surveillance and Criminal Analysis in Public Area)
เพื่อยกระดับความสามารถในการดำเนินงานด้านต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในด้านของการรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยของประเทศ ปัจจุบันมหานครหลายแห่งในโลกได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence) เข้ามาใช้ร่วมกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อตรวจตราความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ สำหรับประเทศไทยมีประชากรจำนวนมาก ทั้งยังเป็นจุดหมายอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวมากมายทั่วโลก การดูแลรักษาความสงบสุขและความปลอดภัย ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น บก.น.1 เป็นหน่วยงานภายใต้ บช.น.มีภารกิจในการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดทางอาญา และรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน และความมั่นคงของราชอาณาจักร ได้รับนโยบายในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ เพื่อป้องกันปราบปรามและจับกุมคนร้าย ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
น.ส.บราลี กล่าวว่า ขอบคุณ บก.น.1 ที่ให้ความไว้วางใจแก่บริษัทฯ ได้เข้ามาร่วมพัฒนาโครงการในครั้งนี้ พร้อมขอแสดงความชื่นชมในวิสัยทัศน์ของสำนักงานตารวจแห่งชาติ (ตร.) ในฐานะองค์กรภาครัฐที่เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาการทำงานขององค์กร โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาร่วมในการปฏิบัติหน้าที่ บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน ระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อการสอดส่องดูแลความปลอดภัย ถือเป็นระบบพื้นฐานที่สำคัญ อย่างหนึ่งในการพัฒนา smart city เนื่องจากจะทำให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจในชีวิตและทรัพย์สิน อันเป็นรากฐานที่สำคัญของคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งยังช่วยสร้างความเชื่อมั่น มั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการและนักลงทุนที่ดำเนินธุรกิจกิจในพื้นที่นั้นๆ ช่วยให้ เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี
โดยระบบ AI ที่นำมาใช้ในโครงการนี้ ได้มีการเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดในจุดหลักๆ เป็นจุดที่มี ความสุ่มเสี่ยงที่อาจมีเหตุร้าย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ภายใต้การดูแลของ สน.ห้วยขวาง นอกจากฟังก์ชั่น Facial Recognition หรือการวิเคราะห์เปรียบเทียบใบหน้ากับฐานข้อมูลหมายจับแล้ว ยังมีระบบวิเคราะห์พฤติกรรม (behavior analysis) ที่สุ่มเสี่ยงจะเป็นการก่ออาชญากรรม เช่น การวิ่งราว การทะเลาะวิวาท เป็นต้น ทั้งยังมีระบบ วิเคราะห์รูปพรรณสัณฐานซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาในการสืบหาเบาะแสของคนร้ายได้อีกด้วย นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ เพื่อลดปัญหาอาชญากรรมแล้ว ระบบยังสามารถนำมาใช้เพื่อการช่วยสืบหาบุคคล เช่น เด็กหรือผู้สูงอายุที่หลงทางได้อีกด้วย
น.ส.บราลี กล่าวต่อว่า จากประสบการณ์ในการพัฒนาเอไอโซลูชั่นให้แก่หน่วยงานหรือองค์กร ต่างๆ แต่ละองค์กรก็มีแนวทางและและระบบขั้นตอนในการทำงานที่ต่างกัน การนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการออกแบบระบบ และวางแผนขั้นตอนการปฏิบัติงาน ให้เหมาะสมและสอดคล้องระหว่างเทคโนโลยี กับเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติงานในองค์กรนั้นๆ ถือเป็นหัวใจสำคัญของการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการ ทำงานขององค์กรอย่างแท้จริง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจากจุดเริ่มต้นโครงการนี้ หากสามารถนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดและขยายผลในวงกว้าง จะเป็นประโยชน์แก่ประเทศได้อีกมาก
ขณะนี้ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์เสร็จสิ้นทั้งหมดแล้วโดยได้มีการทดลองระบบประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา ภายหลังจากที่มีการลงบันทึกข้อตกลงก็จะเริ่มเข้าไปประสานงานกับตำรวจ เพื่อฝึกการใช้งาน เรื่องความปลอดภัยหรือการวิเคราะห์พฤติกรรมต่างๆ (behavior analysis) ทำได้ค่อนข้างหลากหลาย แต่ระบบดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยการเรียนรู้เพิ่มเติมจากสภาพแวดล้อมจริง หากทางตำรวจมีกรณีหรือคดีที่เกิดขึ้น อาจจะนำมาฝึกระบบปัญญาประดิษฐ์ให้ตรวจสอบการกระทำความผิดลักษณะดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จำเป็นต้องมีการออกแบบระบบ และวางแผนขั้นตอนการปฏิบัติงานให้เหมาะสมและสอดคล้องระหว่างเทคโนโลยีกับเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติงานในองค์กรนั้น ถือเป็นหัวใจสำคัญของการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร ส่วนความคาดหวังเชื่อว่าระบบดังกล่าวจะสามารถช่วยแบ่งเบางานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วช่วยป้องกันอาชญากรรมได้ก่อนที่จะเกิดเหตุ และจุดเริ่มต้นโครงการนี้ จะสามารถนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดและขยายผลในวงกว้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศได้อีกมาก
พ.ต.อ.ธรากร กล่าวว่า เป็นความร่วมมือกับ บริษัท อินเตอร์สเต็ปส์ จำกัด ในฐานะที่เป็นบริษัทที่ปรึกษา และพัฒนา AI Platforms มีทีมงานและประสบการณ์เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีดังกล่าว มีผลงานทั้งในภาครัฐและเอกชนมาแล้ว ได้เข้ามาร่วมสนับสนุนให้ โครงการดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรม ในอนาคตเมื่อโครงการนำร่องนี้สามารถดำเนินการได้ ตรงวัตถุประสงค์ของทางราชการ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชน จะได้พิจารณาขยายผลไปสู่สถานีตำรวจนครบาลอื่นต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.เสนิต กล่าวว่า การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมนอกเหนือจากความรู้ ความสามารถ ไหวพริบ และปฏิภาณที่ได้รับจากการเรียนรู้ฝึกอบรม ตลอดจนประสบการณ์ที่สะสมจากการ ปฏิบัติหน้าที่แล้ว เทคโนโลยีเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญยิ่งที่ต้องนำมาใช้ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสัมฤทธิ์ผลได้ อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความผาสุกแก่ประชาชนและความสงบเรียบร้อยของสังคม เป็นอีกหน้าที่หลักของ บช.น. และ ตร.
ขณะที่ พ.ต.อ.ภูริส กล่าวว่า ทาง สน.ห้วยขวาง ได้มีการทำงานร่วมกับ บริษัท อินเตอร์สเต็ปส์ จำกัด มาแล้ว 4-5 เดือน โดยมอบหมายให้ฝ่ายป้องกันและปราบปราม (ปป.) สน.ห้วยขวาง รับผิดชอบระบบดังกล่าว ประสานงานกับวิทยุสื่อสารในการควบคุมพื้นที่ มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูงตรวจจับอะไรได้ค่อนข้างมาก ข้อมูลดังกล่าวเป็นชั้นความลับ สามารถตรวจสอบข้อมูลภาพของผู้ต้องสงสัยได้ทันที โดยเฉพาะข้อมูลหมายจับ จึงต้องมีตำรวจที่มีความรู้คอยตรวจสอบ หลังจากที่ได้สัมผัสกับเทคโนโลยีดังกล่าว ถือว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมาก สำหรับการเฝ้าระวังในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง โดยสถานทูตจีนให้ความสนใจพื้นที่รัชดาภิเษก และในอนาคตมีความคิดจะทำเมืองให้กลายเป็นไซน่าทาวน์ 2 ด้วย เมื่ออยู่ในระบบคัดแยกหากเป็นฐานของมูล ที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบก็จะทำให้ระบบมีเสถียรภาพ ช่วยคัดกรองกลุ่มเฝ้าระวังได้มากและรวดเร็ว รวมถึงสามารถนำมาใช้กับงานสืบสวนได้ด้วย เช่น บริเวณตลาดห้วยขวาง รอบสถานีตำรวจ จะได้มีการนำข้อมูลมาใช้ในการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิด ได้ในอนาคตอย่างแน่นอน.