กองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมสาวใหญ่ข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน ได้ที่บริเวณบ้านม่าหนิก จ.ภูเก็ต หลังผู้เสียหายวัย 73 ปี และครอบครัวสูญเสียเงินกว่า 8 ล้านบาท หลังให้เกษตรกรยืมเงินจ่าย ธ.ก.ส. ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก. 1 บก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว สว.กก.6 บก.ป. พ.ต.ต.วริศร มัจฉา สว.กก. 6 บก.ป. พ.ต.ท.เจตนิพัฒน์ ศิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ สภ.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต นำกำลังจับกุม นางหรรษา พันธ์จู อายุ 46 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 940/2562 ลงวันที่ 2 ก.ค. 2562 ข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน ได้ที่บริเวณบ้านม่าหนิก ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
พ.ต.อ.ธงชัยกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือน พ.ย.และ ธ.ค.ปี 2561 มีผู้เสียหาย 3 รายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ว่านางหรรษาได้ใช้อุบายยืมเงินโดยหลอกลวงว่านำไปมอบให้เกษตรในพื้นที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ใช้ชำระหนี้กู้ยืมเงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยอ้างว่าเมื่อเกษตรกรได้ชำระหนี้แล้วจะสามารถกู้ยืมเงินจากธนาคารดังกล่าวได้ใหม่ในยอดเงินที่สูงขึ้น ซึ่งหลังจากธนาคารให้กู้เงินใหม่แล้วจะนำเงินมาชำระหนี้คืนให้พร้อมดอกเบี้ยสูง
พ.ต.อ.ธงชัยกล่าวต่อว่า ในการหลอกลวงครั้งนี้ผู้ต้องหาได้เลือกเหยื่อที่มีอายุมาก โดยผู้เสียหายรายแรกเป็นหญิงอายุ 73 ปี และได้ชักชวนสามีของบุตรสาวเป็นรายที่ 2 ส่วนรายล่าสุดที่เสียหายเคยเป็นลูกจ้างของผู้เสียหายรายแรก ทั้งหมดถูกหลอกรวมกัน 8 ล้านบาท มีการโอนเงินเข้าบัญชีให้ผู้ต้องหาหลายครั้ง รวมทั้งมอบทรัพย์สินให้ผู้ต้องหานำไปจำนำเพื่อนำเงินไปลงทุน ระยะแรกผู้ต้องหาได้คืนเงินให้มาบางส่วนเพื่อให้เหยื่อเกิดความเชื่อมั่นว่ามีการให้ดอกเบี้ย ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ แต่เมื่อมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่าถูกหลอกลวงจึงเข้าแจ้งข้อความ กระทั่งกองปราบปรามจับกุมดำเนินคดีได้ดังกล่าว จากการสอบสวนนางหรรษา ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป