MGR Online - “อั้ม-อธิชาติ” ดาราชื่อดัง ยอมถอนฟ้องหมิ่น “บริษัท บลู ริบบอน”- “ปอล ดัชชี่” หลังชดใช้ค่าเสียหาย 1 ล้าน พร้อมลงโฆษณา นสพ.3 ฉบับ ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ถอนฟ้องและจำหน่ายคดี
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (19 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2954/2559 ที่นายอธิชาติ ชุมนานนท์ หรือ “อั้ม-อธิชาติ” ดารานักแสดงชื่อดัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท บลู ริบบอน แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด, นายวินัย เอี่ยมประเสริฐ หรือ “ปอล ดัชชี่” กรรมการผู้จัดการบริษัท และนายปฏิภาณ วนัสบดี ที่ปรึกษากฎหมาย เป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332 ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษตามความผิด และให้พวกจำเลยชดใช้ค่าเสียหาย แก่โจทก์จำนวน 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
คำฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2559 นายปฏิภาณ จำเลยที่ 3 ได้แถลงข่าวในฐานะตัวแทนจำเลยที่ 1-2 ต่อสื่อมวลชน ที่อาคารวอเตอร์ลีฟ ถ.บรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. เนื้อหามีการกล่าวถึงรายละเอียดการจ่ายค่าจ้างนักแสดงว่ายังมีการค้างจ่าย รวมทั้งข้อความทำนองว่าให้โจทก์ และผู้ที่เกี่ยวข้องมีความจริงใจในการแก้ปัญหาและให้หยุดกระทำการที่ทำให้บริษัท บลู ริบบอน แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด กับนายวินัย เอี่ยมประเสริฐ จำเลยที่1-2 เสียหาย และเนื้อความการแถลงข่าวส่วนอื่นซึ่งเป็นการกล่าวหาโจทก์ ทำให้สาธารณชนที่ได้รับชมการแถลงข่าวนั้นเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี เป็นคนโกหก ใช้อุบายบิดเบือนข้อเท็จจริงว่า ที่ “อั้ม-อธิชาติ” โจทก์เคยออกมาแถลงข่าวว่า บริษัท หก หนุมานฯ ได้ชำระเงินค่าจ้างนักแสดงแล้วนั้น แท้จริงแล้วโจทก์ยังเป็นหนี้จำเลยทั้งสองและไม่ยอมชำระหนี้
รวมทั้งยังติดค้างค่าจ้างนักแสดงซึ่งการกระทำของจำเลยนั้นทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่า โจทก์เป็นบุคคลประสบปัญหาทางการเงินไม่น่าทำธุรกิจด้วยและโจทก์ไม่มีความสามารถในการจัดทำ และผลิตละครโทรทัศน์ชุด “เจ้าเวหา” รวมทั้งไม่มีคุณธรรมเอาเปรียบจำเลยที่ 1-2 ในการค้างชำระเงินซึ่งเป็นหนี้บริษัทจำเลยที่ 1 อยู่แต่กลับนิ่งเฉย ไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา
ถ้อยคำการแถลงข่าวของนายปฏิภาณ จำเลยที่ 3 ในฐานะตัวแทนจำเลยที่ 1-2 จึงเป็นการใส่ความโจทก์ทำให้เสียชื่อเสียง โดยก่อนการแถลงข่าวของจำเลยที่ 3 นั้น บริษัท บลู ริบบอน แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด จำเลยที่ 1 ได้เผยแพร่ข้อความเชิญชวนสื่อมวลชนต่างๆ ให้มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวซึ่งมีการระบุสถานที่ และเวลา การแถลงข่าวไว้ชัดเจน แสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยที่จะให้มีการเผยแพร่การแถลงข่าวต่อสาธารณชนในวงกว้าง ซึ่ง “อั้ม-อธิชาติ” โจทก์เป็นนักแสดงมายาวนานกว่า 15 ปี เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ได้รับรางวัลการแสดงเป็นจำนวนมาก และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโจทก์ประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี โดยการหมิ่นประมาทของจำเลยทั้งสามนั้นทำให้กระทบต่อการประกอบอาชีพอย่างร้ายแรง จึงเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสาม จำนวน 50 ล้านบาท และขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวันจำนวน 5 ฉบับ เป็นเวลาติดต่อกัน 7 วันด้วย
วันนี้ฝ่ายโจท์มีทนายความของ “อั้ม-อธิชาติ” มาฟังคำพิพากษา และจำเลยทั้งสามได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา
เมื่อถึงเวลานัด ทนายโจทก์ได้แถลงต่อศาลว่าขณะนี้จำเลยทั้งสามได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขตามที่ตกลงกัน โดยจ่ายค่าเสียหายให้แก่โจทก์จำนวน 1 ล้านบาท และลงโฆษณาขอโทษลงในหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ โจทก์จึงไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีต่อจำเลยทั้งสามอีกต่อไป และขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสาม ซึ่งจำเลยทั้งสามแถลงไม่คัดค้าน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้คู่ความสามารถตกลงกันได้ และโจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสาม จึงอนุญาตให้โจทก์ทั้งถอนฟ้องจำเลยทั้งสาม และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ
ภายหลังนายอัคพล แพงลา ทนายความโจทก์ เปิดเผยว่า วันนี้คุณอั้ม-อธิชาติติดภารกิจ จึงไม่ได้เดินทางมาศาล แต่ก็มอบอำนาจให้ตนมาถอนฟ้องคดี เพราะเห็นว่าฝ่ายจำเลยได้มีการลงโฆษณาข้อความขอโทษลงในหน้าบันเทิงของหนังสือพิมพ์แล้ว ฉบับลงวันที่ 17-18 ก.ค.ที่ผ่านมา รวม 3 ฉบับ อีกทั้งจำเลยยังได้ชดใช้ค่าเสียหายบางส่วน ซึ่งคุณอั้ม-อธิชาติ ก็พอใจและมาถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท ขณะที่ศาลก็อนุญาตให้ถอนฟ้อง ดังนั้นในส่วนของคดีอาญาถือว่าจบแล้ว แต่ยังมีคดีที่ฟ้องแพ่งกับบริษัทที่เกี่ยวกับเงินค่าจัดละครซึ่งจะมีการไกล่เกลี่ยกันต่อไป