ยธ.ยินดีเป็นกาวใจชดใช้ค่าเสียหายเหยื่อแพรวา แนะแม่เอาโฉนดมาวาง พร้อมหาแหล่งเงินกู้ให้ หรือขายผ่านกรมบังคับคดี

MGR online - รองปลัด ยธ.แจงกระทรวงยุติธรรมพร้อมเป็นตัวกลางเจรจาระหว่าง“แพรา”กับญาติผู้เสียหาย โดยรับโฉนดมาวาง พร้อมประสานสถาบันการเงินมาปล่อยกู้ หรือหากยินยอมจะเอาโฉนดให้กรมบังคับคดีขายทอดตลาดก็ได้ ชี้อาจได้ราคาดีกว่าขายเองแถมไม่เสียค่านายหน้า ระบุตามข้อกฎหมาย เอาโฉนดไปค้ำเพื่อเอาเงินกองทุนยุติธรรมไปใช้ก่อนไม่ได้

จากกรณี นางลัดดาวัลย์ อรุณวงศ์ มารดาของ น.ส.รวินภิรมย์ อรุณวงศ์ หรือ แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ว่า ได้ประกาศขายที่ดิน 21 ไร่ ในพื้นที่ อ.ปราณบุรี และ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 50 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปจ่ายชดเชยให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ น.ส.แพรวาขับรถยนต์ชนรถตู้โดยสารจนมีผู้เสียชีวิต 9 คน เมื่อ 9 ปีก่อน ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษาในคดีแพ่งเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ให้ฝ่ายจำเลยจ่ายชดใช้ 26 ล้านบาทเศษ ซึ่งหากที่ดินดังกล่าวขายได้ไม่พอกับจำนวนเงินที่ต้องจ่ายชดเชย ก็จะนำโฉนดที่ดินหมู่บ้านเมืองทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จำนวน 3 ฉบับ รวม 300 ตารางวา มูลค่า 55 ล้านบาท ออกขายเพื่อจ่ายชดเชยครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมขอให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นำเงินจ่ายไปก่อนถ้าต้องการจะให้รวดเร็วขึ้น โดยนางลัตดาวัลย์ปฏิเสธว่าไม่ได้ประวิงเวลาในการชดใช้ค่าเสียหาย แต่หาเงินไม่ทัน เนื่องจากไม่มีเงินสดมากพอ

ล่าสุด วันนี้ (18 ก.ค.) นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า “ชื่นชมยินดีต่อแม่น้องแพรวาและครอบครัวที่ได้แสดงออกถึงความรับผิดชอบ กรณีคุณแม่น้องแพรวาได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบว่า ไม่มีเจตนาดึงเรื่องให้ยืดเยื้อและไม่ต้องการให้เสียเวลาไปนั่งสืบทรัพย์ให้เสียเวลา พร้อมจ่าย แต่ไม่มีเงินสดในมือ แต่มีหลักทรัพย์เป็นที่ดินเพียงพอกับมูลหนี้ตามคำพิพากษา จึงขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยอนุมัติเงินกองทุนยุติธรรมช่วยเยียวยาผู้เสียหายไปก่อน โดยยอมเป็นลูกหนี้กองทุนยุติธรรมแทน ด้วยการเอาโฉนดเหล่านี้ไปค้ำประกันแทน

“จากการศึกษาข้อกฎหมาย ขณะนี้พบว่า ไม่มีกฎหมายรองรับให้กองทุนยุติธรรมสามารถออกเงินให้จำเลยไปก่อน โดยเอาหลักทรัพย์มาค้ำประกันได้ แต่ก็เป็นเรื่องน่าศึกษาและถอดบทเรียนในอนาคต อย่างไรก็ตามอยากจะขอชื่นชมและขอบคุณคุณแม่ของน้องแพรวาที่เปิดประตูแห่งแสงสว่างในการออกมาแสดงความรับผิดชอบครั้งนี้ อย่างน้อยก็ลดความอึดอัดคับข้องของฝ่ายผู้เสียหายและสังคม

“ข้อเท็จจริงที่สังคมยังไม่รับรู้ก็คือที่ดินของคนที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีนั้น ไม่มีมูลค่าเลยครับ เพราะผู้จะซื้อจะคิดไปว่าอาจเข้าข่ายเป็นการช่วยจำเลยในการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินและถูกเรียกคืน จึงขายไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันคดีได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว

“กระทรวงยุติธรรมยินดีเป็นโซ่ข้อกลางในการรับโฉนดที่ดินมาวางที่กระทรวงยุติธรรมในระหว่างการเจรจาทั้งสองฝ่ายทั้งที่ไม่มีอำนาจในการเก็บหลักทรัพย์ดังกล่าว แต่ก็เพื่อให้เกิดความมั่นใจของคู่กรณี หรือช่วยประสานงานสถาบันการเงินให้ปล่อยเงินกู้ให้ หรือคุณแม่น้องแพรวาอาจยินยอมเข้าสู่กระบวนการบังคับคดีตามกฎหมาย โดยนำหลักทรัพย์ดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการขายทอดตลาดแทนที่กรมบังคับคดีแทนที่ตนเองจะเป็นผู้ขาย ก็ได้ เพราะจากประสบการณ์เคยเห็นมีที่ดินบางแปลงขายโดยกรมบังคับคดีได้มากกว่าเจ้าทรัพย์นำไปขายเองครับ โดยจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน และไม่ต้องไปเสียค่านายหน้าให้ใคร

“ขอชื่นชมยินดีอีกครับนะครับที่คุณแม่และครอบครัวที่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องรับผิดชอบและหาทางออกร่วมกันครับ” นายธวัชชัยระบุ