MGR online - ศาลนัดอ่านคำพิพากษา เสี่ยเจ้าของโรงงาน ซิ่งเบนซ์พุ่งข้ามเลนชนประสานงา รถรอง ผกก. สส.กก.2บก.ป.เสียชีวิตพร้อมภรรยา ส่วนลูกสาวสาหัส 31 ก.ค. หลังอัยการยื่นฟ้อง 3 ข้อหาหนัก
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่าคดีที่ นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เสี่ยเจ้าของโรงงานขับรถเบนซ์สปอร์ต ซิ่งชนประสานงากับ รถส่วนตัวของ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล หรือรองตี๋ รอง ผกก.สอบสวน กก.2 บก.ป.ที่เดินทางมาพร้อมครอบครัวจน พ.ต.ท.จตุพรเสียชีวิตพร้อมภรรยา ส่วนลูกสาวคนเล็ก ได้รับบาดเจ็บนั้น ที่เขตทวีวัฒนา เมื่อวันที่ 11 เม.ย.62 นั้น ล่าสุด พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5 ได้ยื่นฟ้อง นายสมชาย เป็นจำเลย ในคดีหมายเลขดำ 1839/2562 ต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน ในฐานความผิดขับรถด้วยความเร็วเกินอัตราที่กฏหมายกำหนด , ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย , ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส รวม 3 ข้อหา
โดยอัยการสั่งไม่ฟ้องความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นฯ ตามที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนแจ้งข้อหาดังกล่าวมาด้วย แต่อัยการพิจารณาแล้วพฤติการณ์ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดทางกฎหมาย ซึ่งก่อนการยื่นฟ้องนายสมชาย ได้ประกันตัวไปด้วยวงเงิน 200,000 บาท
ขณะที่หลังฟ้อง เมื่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน สอบคำให้การจำเลยแล้วให้การรับสารภาพตามฟ้องอัยการโจทก์ ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วจึงเห็นสมควรให้มีการสืบเสาะและพินิจจำเลยก่อนมีคำพิพากษา โดยให้พนักงานคุมประพฤติรายงานผลการสืบเสาะนั้นให้ศาลทราบภายใน 15 วัน และให้นัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ทั้งนี้นายสมชาย ผู้ก่อเหตุ ยินยอมที่จะเยียวยาชดใช้ค่าเสียหาย 45 ล้านบาท ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต
ส่วนประเด็นการจัดตั้งเจ้าพนักงานงานตำรวจศาลนั้น นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า จะมุ่งเน้นดำเนินการติดตามจับกุมบุคคลที่มีหมายจับของศาลอยู่แล้ว เช่น ผู้ต้องหาหรือจำเลยที่หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาโดยเฉพาะหมายจับภายในประเทศ และไม่ซ้ำซ้อนกับคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรับผิดชอบอยู่แล้ว ส่วนผู้ต้องหาหรือบุคคลที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศนั้น ก็มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยอัยการสูงสุดเป็นผู้ประสานงานกลาง ในการติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยประสานงานกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม