xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจโยนอัยการแจ้งจับ“แรมโบ้อีสาน”กระชั้นชิด นำตัวส่งฟ้องไม่ทัน หลุดคดีป่วนประชุมอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ(แฟ้มภาพ)
MGR online -รองโฆษก ตร.แจงเหตุนำตัว“แรมโบ้อีสาน”ส่งอัยการเพื่อฟ้องคดีป่วนประชุมอาเซียนที่พัทยาไม่ทัน เหตุอัยการส่งเรื่องมาให้จับกุมแค่ 7 วันก่อนหมดอายุความ ยันไม่ได้ปล่อยปละละเลย โยนต้นสังกัดตรวจสอบข้อเท็จจริง



วันนี้( 26 มิ.ย.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ชี้แจงกรณีพนักงานอัยการสำนักงานอัยการจังหวัดพัทยา ไม่สามารถนำตัว นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มาฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา ในคดีก่อความวุ่นวายในการชุมนุมระหว่างประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่เมืองพัทยา เมื่อปี 2552 จนคดีขาดอายุความ

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 2552 แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยานั้น ได้รับคำร้องทุกข์เมื่อเดือนมีนาคม 2558 หลังจากได้รับเรื่องร้องทุกข์แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและสามารถส่งสำนวนให้พนักงานอัยการในการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 7 ราย เมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ซึ่ง 1 ในนั้นคือ นายสุภรณ์ ซึ่งก็ถือว่าการดำเนินการอยู่ในกรอบของระยะเวลา ซึ่งหลังจากที่มีการส่งสำนวนให้ทางพนักงานอัยการแล้วนั้น ทางพนักงานอัยการก็ได้สั่งให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมในหลายประเด็น จากนั้นทางพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคม 2561 ซึ่งก็ไม่ได้มีการประสานอะไรมา

กระทั่งเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2562 ทางอัยการได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำการติดตามตัวนายสุภรณ์เพื่อสั่งฟ้อง และได้มีการออกหมายจับในวันที่ 4 เมษายน 2562 ก่อนขาดอายุความในวันที่ 11 เมษายน 2562 ตำรวจมีเวลาเพียงแค่ 7 วันในการติดตามตัว ก็ต้องไปดูระยะเวลาและความเหมาะสม

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า ซึ่งไทม์ไลน์ก็อยู่ในกรอบระยะเวลาที่กำหนด ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปล่อยปละละเลยและเชื่อว่าทุกฝ่ายทำเต็มที่แล้ว แต่เรื่องนี้ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองพัทยา ว่า ในพื้นที่มีคดีความจำนวนมาก จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการติดตามตัวนายสุภรณ์ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และไม่มีการช่วยเหลืออย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ต่อไป
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.
ก่อนหน้านี้ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาประกอบด้วย นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นพ.เหวง โตจิราการ, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายอดิศร เพียงเกษ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ในความผิดฐานร่วมกันโฆษณาหรือประกาศให้ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งให้เลิกการมั่วสุม, ร่วมกันโฆษณาหรือประกาศให้กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใด เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน มาส่งอัยการในวันที่ 1 ส.ค. 2560 ในส่วนของนายจักรภพ ผู้ต้องหาได้มีการหลบหนีออกนอกประเทศ จึงได้มีการขอศาลออกหมายจับตั้งแต่ต้น โดยหลังจากที่อัยการเจ้าของสำนวนรับสำนวนมาก็มีการสั่งสอบสวนเพิ่มเติมตามรูปคดี ประกอบกับกลุ่มผู้ต้องหามีการยื่นร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ซึ่งทางอัยการก็ได้มีการพิจารณาระหว่างที่รอผลการสอบสวนเพิ่มเติม จนวันที่ 8 ก.พ. 2562 ทางพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคน

จากนั้นได้นัดให้ผู้ต้องหามาวันที่ 25 ก.พ. 2562 เพื่อนำตัวยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้งหมดขอเลื่อนการส่งตัวฟ้อง อัยการก็อนุญาตให้เลื่อนเป็นวันที่ 19 มี.ค. 2562 แต่ระหว่างที่จะถึงวันนัดฟังคำสั่ง วันที่ 15 มี.ค. 2562 นายสุภรณ์ก็ได้มาขอเลื่อนนัดฟังคำสั่ง โดยอ้างเหตุติดปราศรัยเลือกตั้ง ส่วนนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายจตุพร และ นพ.เหวง เดินทางมาตามนัดวันที่ 19 มี.ค. อัยการจึงยื่นฟ้องทั้งสี่เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดพัทยาในวันดังกล่าว จะขาดเพียงนายอดิศรและนายสุภรณ์ ซึ่งไม่ได้มาโดยอ้างเหตุติดหาเสียงเช่นเดียวกัน

ทางอัยการจึงมีคำสั่งให้เลื่อนวันนัดฟังคำสั่งของสองผู้ต้องหาที่เหลือไปเป็นวันที่ 2 เม.ย. 2562 พอถึงวันที่ 2 เม.ย. นายอดิศรมาตามนัด อัยการจึงนำตัวฟ้องศาลตามไปกับจำเลยทั้งสี่ที่ฟ้องไปก่อนหน้านี้ แต่ในส่วนของนายสุภรณ์ ก่อนที่จะถึงวันนัดวันที่ 2 เม.ย. 2562 นั้น ได้มีการส่งนายศุชัยวุฒิ ชาวสวนกล้วย ทนายความ มายื่นคำร้องขอเลื่อนนัดฟังคำสั่ง เนื่องจากตัวนายสุภรณ์มีอาการหายใจไม่ออก นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ทางอัยการพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้เลื่อน

เมื่อถึงเวลานัดไม่มาอัยการจึงได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึง ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ ผบช.ภ.2 ให้ดำเนินการจับกุมตัวนายสุภรณ์มาส่งอัยการฟ้องต่อศาลให้ได้ภายในวันที่ 5 เม.ย. 2562 แต่ทางตำรวจแจ้งว่ายังไม่สามารถนำตัวมาได้ จึงดำเนินการขอศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับนายสุภรณ์วันที่ 4 เม.ย. 2562 โดยหลังออกหมายจับ ทางอัยการยังได้มีหนังสือด่วนที่สุดออกมาอีกส่งถึง ผกก.สภ.พัทยา, ผบช.ภ.2, ผบก.ชลบุรี, นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งดำเนินการจับกุมตัวนายสุภรณ์มาให้อัยการฟ้องต่อศาลให้ได้ เนื่องจากคดีของนายสุภรณ์จะหมดอายุความในวันที่ 11 เม.ย. 2562 โดยในหนังสือที่ส่งถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เน้นย้ำเป็นอักษรดำเข้ม

นายประยุทธ์ย้ำว่าเรื่องนี้ทางอัยการไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย จะเห็นได้ว่า ในระหว่างดำเนินการที่อัยการรับสำนวนมาเป็นช่วงหลังเกิดเหตุถึง 8 ปีกว่า ซึ่งเราจะสั่งคดีเลยก็ไม่ได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรม พอเราสั่งเด็ดขาดช่วง ก.พ. 2562 เราก็มีการเร่งรัดที่จะฟ้องมาตลอด อย่างกรณีนายณัฐวุฒิ, นายจตุพร ก็เลื่อนหลายครั้งจนมาฟ้องชุดแรกได้ 15 มี.ค. 2562 และชุดสองที่นายอดิศรวันที่ 2 เม.ย. ส่วนนายสุภรณ์ไม่มา เราก็ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างละเอียด เราไม่ได้ปล่อยปละละเลยแน่นอน คดีนี้ที่เราไม่ได้ตัวมาฟ้องจนหมดอายุความ ก็จะมีสุภรณ์กับจักรภพที่หนีไปต่างประเทศ การไปตามจับก็ไม่ใช่หน้าที่อัยการ แต่เราทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ส่วนเรื่องจะมีการตั้งสอบอัยการเจ้าของสำนวนหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานมา ซึ่งอัยการเจ้าของสำนวนก็ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่


กำลังโหลดความคิดเห็น