MGR online - “เก๋-กมลพร” ผู้ประกาศข่าวช่องดัง เดินทางเข้าแจ้งความ ปอท. เอาผิดคนปลอมไลน์หลอกเงินเหยื่อ อ้างนำไปบริจาคโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลใน จ.แม่ฮ่องสอน ล่าสุด พบเหยื่อแล้ว 3 ราย ความเสียหายกว่า 2 หมื่นบาท
วันนี้ (24 มิ.ย.) เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) น.ส.กมลพร วรกุล หรือ เก๋ ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง TNN 16 อดีตผู้ดำเนินรายการคนล่าฝัน ช่อง News1 พร้อม นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ ดีเจเคนโด้ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. และ ร.ต.อ.ปิยวัตน์ ปรัชญญา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความเอาผิดบุคคลปลอมแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) หลอกลวงผู้เสียหายที่เป็นแขกรับเชิญในรายการ “คนล่าฝัน” ซึ่งเคยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ News1 โดยบริจาคผ่านบัญชีธนาคารคนร้ายอ้างว่าจะไปทำบุญให้แก่โรงเรียนที่อยู่ห่างไกลใน จ.แม่ฮ่องสอน และชักชวนให้บริจาคซื้อรองเท้าและกระเป๋านักเรียน มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 หมื่นบาท
น.ส.กมลพร กล่าวว่า สืบเนื่องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แขกรับเชิญในรายการคนล่าฝัน ซึ่งเคยออกอากาศในสถานีโทรทัศน์ News1 ต้นสังกัดเดิมที่เคยทำงาน โทรศัพท์มาสอบถามว่าตนได้ซื้ออุปกรณ์การเรียนที่ตลาดสำเพ็งไปบริจาคโรงเรียน จ.แม่ฮ่องสอน หรือไม่ ทำให้ตนรู้สึกแปลกใจ จึงตรวจสอบจนทราบว่ามีคนร้ายแอบอ้างชื่อตน โทรศัพท์ไปหาผู้เสียหายชักชวนให้โอนเงินซื้อของบริจาคดังกล่าว จากนั้นจะมีชื่อตนที่คนร้ายแอบอ้างปรากฏในแอปพลิเคชันไลน์ และมีการพูดคุยกับผู้เสียหายผ่านทางข้อความ โดยเหยื่อไม่ได้สงสัยเพราะลักษณะการพูดคุยคล้ายกับตนมาก
น.ส.กมลพร กล่าวอีกว่า ต่อมา มีผู้เสียหายอีก 2 ราย สอบถามเกี่ยวกับการบริจาคช่วยเหลือเข้ามาอีกและอธิบายพฤติการณ์ของคนร้ายว่าจะทักทายด้วยประโยคเดียวกัน และเสียงเหมือนพูดคุยอยู่ริมถนน รวมถึง ประโยคในข้อความทางไลน์ ซึ่งดีเจเคนโด้ อ่านแล้วยังบอกว่าคล้ายกับของตนมาก แต่ขอยืนยันว่า ตอนทำรายการตนไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ผู้เสียหายโอนเข้าไป ชื่อ พัชรินทร์ อนุชิตวงศ์ พบเป็นบุคคลเดียวกับที่แอบอ้างชื่อและรายการ ตี๋อ้วน ชวนหิว ไปเรี่ยไรเงินบริจาคตามร้านอาหารต่างๆ ที่เคยไปออกรายการ เมื่อปี 2560 รวมถึงรายการโทรทัศน์ช่องอื่นๆ อีกหลายรายการ ซึ่งเรื่องก็ผ่านมานาน และมีชื่อผู้ต้องสงสัยแล้ว พร้อมต้องการเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งรัดจับกุมคนผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ระบุว่า หลังจากนี้ จะมีการเรียกเชิญผู้เสียหายทั้งสามรายเข้าให้ปากคำในกรณีดังกล่าวเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งความผิดในลักษณะนี้เข้าข่ายตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) ผู้ใด นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน